รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

อย่างที่พอทราบกันดีว่าการรีไฟแนนซ์ คือการปิดหนี้ก้อนเก่า เพื่อเริ่มชำระกับสถาบันการเงินที่ใหม่ เพื่อให้ได้ยอดชำระ และอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ซึ่งมีทั้งการรีไฟแนนซ์บ้าน และการรีไฟแนนซ์รถ นอกจากนี้ยังมีการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ที่เป็นตัวช่วยสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตคืออะไร และมีรูปแบบต่างจากรีไฟแนนซ์บ้าน และรถ อย่างไรบ้าง ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยกัน

รู้จักกับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การทำเรื่องขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินเดิม หรือสถาบันการเงินใหม่ เพื่อเป็นการชำระหนี้สินจากบัตรเครดิตเดิม ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้น เหมาะอย่างยิ่งแก่คนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และมียอดค้างชำระจำนวนมาก เพราะการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะเป็นการนำยอดค้างชำระทั้งหมดมารวมไว้ด้วยกัน จากนั้นจึงเริ่มการผ่อนชำระใหม่ที่สามารถลดดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าเดิม หรือยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป ทำให้ช่วยลดภาระหนี้สินได้ 


การรวมหนี้บัตรเครดิตคืออะไร

การรวมหนี้บัตรเครดิต หรือ ีัไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือ การนำหนี้สินที่เรามีจากบัตรเครดิตหลายๆ ใบที่ค้างชำระอยู่ หรือหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง หนี้สินเชื่อประเภทอื่น มารวมไว้ในที่เดียวกันเพื่อสะดวกต่อการจัดการชำระหนี้ ซึ่งการรวมหนี้จะช่วยให้สามารถเลือกผ่อนชำระเป็นรายงวดในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ช่วยให้ลูกหนี้สามารถปิดหนี้ได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น หรืออาจสามารถเลือกที่จะผ่อนชำระต่อเดือนในจำนวนที่น้อยลง และขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้นานขึ้น


รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ดีอย่างไร

ข้อดีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต คือการช่วยลดภาระการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ให้เป็นก้อนเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการผ่อนชำระ โดยการรีไฟแนนซ์มีข้อดีต่อการผ่อนชำระหนี้ ดังนี้

1. ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง เพราะการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตนั้นเป็นการรวมหนี้ทั้งหมดเป็นก้อนเดียว ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยถูกลงกว่าการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการชำระหนี้มากยิ่งขึ้น

2. ช่วยให้บริหารหนี้ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการรีไฟแนนซ์ คือการนำหนี้สินหลายๆ ก้อนถูกรวมมาเป็นที่เดียวกัน เราสามารถผ่อนเพียงที่เดียวไม่ต้องผ่อนหลายธนาคาร รวมถึงจ่ายอัตราดอกเบี้ยเพียงก้อนเดียว ช่วยให้การชำระหนี้แต่ละครั้งมีความสะดวกสบาย ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก

3. แบ่งเบาค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพราะการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหม่ที่เราสามารถยืดอายุการชำระหนี้ออกไป ทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลงกว่าเดิม ทำให้เพิ่มสภาพคล่องต่อการใช้เงินมากยิ่งขึ้น

4.ไม่เสียประวัติทางการเงิน เนื่องจากการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตคือการนำหนี้ใหม่ไปปิดหนี้เก่า ทำให้เราไม่เสียประวัติทางการเงินในเรื่องของการผิดนัดชำระ หรือมีหนี้เสีย


ใครบ้างที่เหมาะกับการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการรีไฟแนนซ์ มีประโยชน์ในการช่วยให้การชำระหนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย สะดวก ยิ่งขึ้น การรีไฟแนนซ์ผ่านนั้นขึ้นอยู่กับ สถาบันการเงินจะประเมินคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม  แต่หลายคนอาจสงสัยว่าการรีไฟแนนซ์เหมาะกับใครบ้าง ในส่วนนี้เราได้จำแนกไว้ ดังนี้

  • คนที่เผชิญปัญหาอัตราดอกเบี้ยของหนี้ที่เพิ่มขึ้น จนทำให้การผ่อนชำระหนี้แต่ละเดือนคือการจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าการจ่ายเงินต้น ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยลดต้นลดดอกของหนี้ ช่วยให้มีเงินส่วนต่างในการใช้จ่ายอื่นๆ ได้ 
  • คนที่มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดความสับสนในการชำระหนี้ และต้องการรวมหนี้ทั้งหมดมาไว้เป็นก้อนเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการผ่อนชำระ
  • คนที่ต้องการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป เพราะบางคนอาจมีปัญหาการชำระหนี้ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก การรีไฟแนนซ์จึงช่วยลดภาระการชำระหนี้ต่อเดือน ด้วยการยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป
  • คนที่ไม่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ ไม่เคยติดเครดิตบูโร และมีงานประจำ เนื่องจากแต่ละสถาบันการเงิน ต้องการพิจารณาลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตรงเวลา มีเงินเดือน หรือรายรับที่ชัดเจน และมั่นใจว่าจะไม่ผิดนัดชำระ
  • คนที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000 บาท ขึ้นไป เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสที่จะรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้มากที่สุด เนื่องจากมีกฎเกณฑ์จากธนาคารแห่งประเทศไทย การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ระบุว่าคนที่มีเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท เช่น การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เงินเดือน 15,000 บาท  จะสามารถมีสินเชื่อประเภทส่วนบุคคลได้ไม่เกิน 3 สถาบันทางการเงินเท่านั้น หากมีมากกว่านั้นจะไม่สามารถทำการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้ แต่ส่วนมากถ้าหากมีรายได้มากกว่า 30,000 บาท ทางธนาคารจะไม่ค่อยอนุมัติการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตให้

รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ใช้เอกสารอะไรบ้าง

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตในแต่ละครั้ง ต้องใช้เอกสารในการประกอบการดำเนินเรื่องเพื่อยืนยันตัวตน และรับรองการมีรายได้ โดยจะแบ่งเป็นกรณีของพนักงานประจำ และเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ที่จะใช้เอกสารที่แตกต่างกัน ดังนี้

กรณีเป็นพนักงานประจำ หรือเป็นข้าราชการ

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารที่ระบุธนาคาร เลขบัญชี และชื่อเจ้าของบัญชี สำหรับโอนเงินสินเชื่อ
  • สลิปเงินเดือนต้นฉบับ หรือหนังสือรับรองเงินเดือน โดยจะต้องมีระยะเวลาย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน
  • เอกสารยืนยันภาระหนี้สิน

กรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้า
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจย้อนหลังไม่เกิน 6 เดือน สำเนาแสดงงบการเงินของธุรกิจ หรือสำเนา ภ.พ.30 
  • สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารที่ระบุธนาคาร เลขบัญชี และชื่อเจ้าของบัญชี สำหรับโอนเงินสินเชื่อ
  • เอกสารยืนยันภาระหนี้สิน

วิธีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

วิธีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

หลังจากที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นของการรีไฟแนนซ์แล้ว อีกส่วนที่ควรรู้คือ วิธีการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ให้มีโอกาสอนุมัติผ่าน และช่วยให้เราได้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า ต้องทำอย่างไร ซึ่งเรารวมวิธีรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตมาให้ ดังนี้

1.เช็กยอดหนี้บัตรเครดิต และรวมให้เป็นยอดเดียว

ก่อนที่จะดำเนินเรื่องขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เราจะต้องเริ่มจากการทบทวนหนี้ทั้งหมดที่เรามี ว่ามีหนี้บัตรเครดิตกี่ใบ และทำ ให้กลายเป็นยอดเดียว เพื่อวางแผนในการขอวงเงินสินเชื่อที่จะรีไฟแนนซ์ โดยควรตั้งวงเงินสินเชื่อให้มากกว่าจำนวนหนี้สินที่มี เพราะสถาบันการเงินอาจไม่ได้ให้วงเงินเต็มจำนวน ทั้งนี้ควรพิจารณาว่าหนี้สินที่มีอยู่มียอดหนี้มากน้อยแค่ไหน หากเป็นหนี้ไม่มาก อาจสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคล แต่หากมีหนี้จากบัตรเครดิตหลายใบ อาจเลือกสินเชื่อที่ใช้ทรัพย์สินเป็นหลักค้ำประกัน

2.เปรียบเทียบโปรโมชัน ของสถาบันการเงินแต่ละเจ้า

หลังจากที่ทราบยอดหนี้สินที่ต้องชำระแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเปรียบเทียบโปรโมชันสินเชื่อของสถาบันการเงินแต่ละที่ โดยควรเลือกจากสินเชื่อที่มีเงื่อนไขโปรโมชันที่คุ้มค่า และเหมาะสมต่อกำลังการผ่อนของตนเอง เช่น สถาบันการเงินบางเจ้าอาจให้วงเงินที่สูง พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แพง แต่อาจมีอายุการชำระหนี้ที่ยาวนาน เป็นต้น 

3.ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้ทั้งหมด

เอกสารเป็นส่วนสำคัญในการยื่นขอสินเชื่อ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเราจะสามารถเป็นลูกหนี้ที่ดี ไม่ผิดนัดชำระ ดังนั้นก่อนดำเนินการสินเชื่อควรตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารที่เกี่ยวกับการเงิน ไม่ว่าจะเป็นประวัติการชำระหนี้ที่ดี และการมีรายได้เข้ามาเป็นประจำ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตอนุมัติง่ายยิ่งขึ้น


คุณสมบัติผู้ที่สามารถรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของคนที่สามารถดำเนินการรีไฟแนนซ์ให้ผ่านได้ง่าย จะมีเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้ 

1.เป็นคนที่มีรายได้ต่อเดือนรวมมากกว่า 15,000 บาท ขึ้นไป

2.ในกรณีที่ที่มีรายได้มากกว่า 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีสินเชื่อส่วนบุคคล หรือหนี้บัตรเครดิตไม่เกิน 2 ธนาคาร 

3.ไม่มีประวัติเครดิตเสีย ในช่วง 36 เดือนที่ผ่านมา หรือไม่มีประวัติการค้างชำระ หรือผิดนัดชำระเป็นเวลา 30 วัน 

4.ประกอบอาชีพเป็นพนักงานเอกชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้เป็นประจำในแต่ละเดือน


สรุปเรื่องรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต

การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีภาระหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และประสบปัญหาอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะช่วยจัดการปัญหาหนี้บัตรเครดิตหลายก้อนให้กลายเป็นก้อนเดียว พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ย เพิ่มความคล่องตัวในการใช้เงิน เรียกได้ว่าการรีไฟแนนซ์ เป็นทางเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใครกำลังประสบปัญหาหนี้สินที่เยอะเกินกว่าจะจัดการได้หมด และไม่อยากเสียประวัติการชำระหนี้แต่อย่างใด


By content