เครื่องปรับอากาศ ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทุกบ้านหรือทุกสำนักงานขาดไม่ได้ ยิ่งในช่วงอากาศร้อนหรือฤดูฝนที่ความชื้นสูงแบบนี้ แอร์จึงต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ แต่รู้หรือไม่ว่า หากเราไม่ได้ล้างแอร์เป็นประจำ นอกจากจะทำให้แอร์ไม่เย็นสดชื่นเหมือนเดิมแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณ
การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งเพื่อสุขภาพและเพื่อยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าไฟฟ้า ลดปัญหาแอร์ไม่เย็น มีกลิ่นอับ และลดการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ล้างแอร์บ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ความสำคัญของการล้างแอร์บ้านป้องกันปัญหา ล้างแอร์แล้วไม่เย็น
เครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน หากไม่มีการดูแลรักษาและล้างแอร์ย่างสม่ำเสมอจะเกิดการสะสมของฝุ่นละออง เชื้อรา และแบคทีเรียภายในเครื่อง ส่งผลเสียต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพของผู้ใช้งาน
- ช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ฝุ่นและคราบสิ่งสกปรกที่สะสมในคอยล์เย็นและแผ่นกรองอากาศ จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ความเย็นลดลง และกินไฟมากขึ้น
- ป้องกันเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้
หากปล่อยให้ฝุ่น เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียสะสม จะปะปนมากับลมที่เป่าออกมา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ไอ จาม หรือโรคทางเดินหายใจ
- ลดกลิ่นอับและอากาศไม่สดชื่น
คราบสิ่งสกปรกและเชื้อราในคอยล์เย็น จะทำให้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับไม่พึงประสงค์ หากล้างแอร์คอนโดให้สะอาด จะช่วยให้อากาศในห้องสดชื่น
- ช่วยประหยัดไฟ
แอร์ที่สะอาดจะทำให้ได้รวดเร็ว เย็นไว ไม่เปลืองไฟ ลดภาระเครื่องยนต์ และประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น
- ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ
หากล้างแอร์ให้ทำงานสะอาดอยู่เสมอ ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป จะช่วยลดการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้นานขึ้น
ขั้นตอนสำคัญของการล้างแอร์ หรือล้างคอยล์ร้อนแอร์มีอะไรบ้าง?
เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศไปนาน ๆ จะเกิดการสะสมของฝุ่นละออง คราบสิ่งสกปรก และเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งที่แผ่นกรองอากาศ คอยล์เย็น พัดลม และท่อน้ำทิ้ง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้แอร์ไม่เย็น แต่ยังมีเสียงดังอีกด้วย เพื่อความปลอดภัยจึงควรล้างคอยล์ร้อนแอร์อย่างสม่ำเสมอ โดยขั้นตอนการล้างแอร์มีดังนี้
ตรวจเช็กสภาพเครื่องปรับอากาศ
ก่อนล้างแอร์ควรตรวจสอบสภาพการทำงานของแอร์ก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น แอร์เย็นเป็นปกติไหม เสียงทำงานดังเกินไปหรือไม่ มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับหรือเปล่า แล้วเช็กการไหลเวียนของน้ำทิ้งว่ามีอุดตันหรือน้ำหยดหรือไม่ เพื่อวางแผนการล้างและตรวจซ่อมได้อย่างถูกต้อง
ถอดแผ่นกรองอากาศ (Filter) ออกมาทำความสะอาด
นำแผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์ที่อยู่ภายในเครื่องออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด หรือใช้แปรงขัดเบา ๆ หากมีคราบมากจะแช่น้ำผสมสบู่อ่อน ๆ จากนั้นล้างออกให้สะอาด แล้วตากในที่ร่มให้แห้ง
คลุมพื้นที่และอุปกรณ์รอบ ๆ ป้องกันน้ำและฝุ่น
ก่อนฉีดล้างแอร์ควรคลุมพื้น เฟอร์นิเจอร์ ผนัง และอุปกรณ์ต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเครื่อง ด้วยผ้า ถุงพลาสติก หรือถุงคลุมแอร์ เพื่อป้องกันน้ำและสิ่งสกปรกที่อาจกระเด็นเลอะบริเวณโดยรอบ
ฉีดล้างคอยล์เย็น (Evaporator Coil)
ใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดคอลย์เย็นด้านในแอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดูดซับความร้อนจากห้อง เพื่อขจัดฝุ่นและความสกปรก ซึ่งใช้ทั้งการล้างแอร์บ้าน ล้างแอร์คอนโด และล้างแอร์เคลื่อนที่
ล้างพัดลมโบลเวอร์
ล้างพัดลมโบลเวอร์เป็นส่วนที่เป่าลมเย็นออกจากตัวเครื่องให้สะอาด หากมีฝุ่นและคราบสกปรกเกาะมาก จะทำให้แรงลมอ่อน เสียงดังผิดปกติ และอากาศไม่สะอาด การล้างพัดลมจะช่วยลดเสียงดังและเพิ่มแรงลม
ตรวจเล็กและล้างถาดน้ำทิ้ง
การล้างแอร์โดยทำความสะอาดถาดรองน้ำและท่อน้ำทิ้ง เพื่อป้องกันการอุดตันที่ทำให้น้ำล้น หรือหยดในห้อง อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมของตะไคร่ เชื้อรา และกลิ่นอับ การดูและจุดนี้เป็นประจำ จะช่วยให้ระบบการระบายน้ำทำงานได้ดี
ล้างคอยล์ร้อน (Outdoor Unit)
ล้างคอยล์ร้อนแอร์ใช้น้ำฉีดล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตรงแผงคอยล์ร้อนที่ติดตั้งอยู่นอกบ้านหรือระเบียง หากมีฝุ่น เศษใบไม้ หรือสิ่งสกปรกเกาะอยู่มาก ช่วยให้แอร์ระบายความร้อนได้ดี ไม่กินไฟ
ประกอบแผ่นกรองและเช็กระบบอีกครั้ง
เมื่อทุกส่วนทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้ติดตั้งทุกชิ้นส่วนกลับเข้าที่ ตรวจเช็กความเรียบร้อย เปิดเครื่องทดสอบความเย็น และตรวจสอบการทำงานว่าปกติหรือไม่
ควรล้างแอร์เมื่อไหร่ ล้างแอร์เท่าไหร่ จะรู้ได้อย่างไร?
การล้างแอร์ ราคาไม่แพง เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ เพื่อช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อากาศสะอาดสดชื่น และยังยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งระยะในการล้างแอร์แต่ละครั้งขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม
- กรณีใช้งานปกติในบ้าน
- ควรล้างแอร์บ้าน ทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง
- กรณีใช้งานหนัก เปิดทุกวัน หรือพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ
- ควรล้างแอร์ ทุก 3 – 4 เดือน
- สำนักงาน ร้านอาหาร หรือพื้นที่สาธารณะ
- ควรล้างคอยล์ร้อนแอร์ ทุก 3 เดือน เพื่อสุขอนามัยที่ดีและประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่อง
- สัญญาณเตือนว่าควรล้างแอร์ได้แล้ว
- แอร์ไม่เย็นเหมือนเดิม
- มีกลิ่นอับขณะเปิดแอร์
- แอร์เสียงดังผิดปกติ
- มีน้ำหยดจากตัวเครื่อง
- รู้สึกจามหรือแพ้ฝุ่นเวลาอยู่ในห้องแอร์
ล้างแอร์เป็นประจำคุ้มกว่า ล้างแอร์บ้าน ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
วิธีลดฝุ่น PM 2.5 ในบ้าน ควรล้างแอร์ทุก 3 – 6 เดือน หรือเมื่อเริ่มส่งสัญญาณเตือน ราคาล้างแอร์ขึ้นอยู่กับ BTU ของเครื่อง ควรเลือกช่างที่ได้มาตรฐาน เพราะแอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องทำงานตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนหรือหน้าฝน เพื่ออากาศที่ดี และสุขภาพที่ปลอดภัย อย่าลืมใส่ใจดูแลแอร์ในบ้านคุณ