prp ผม นวัตกรรมแก้ไขปัญหาเรื่องของผม เพราะผมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องพบกับปัญหาเรื่องของผม ไม่ว่าจะเป็น ผมร่วง ผมบาง มักกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างความไม่มั่นใจ ซึ่งปัญหาเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นเพราะอายุเริ่มมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ของร่างกายตามวัย ยิ่งผนวกกับปัญหาด้านพันธุกรรมแล้ว อาจจะทำให้ผมร่วงมากและผมบางอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยปกติแล้วเส้นผมของคนจะร่วงวันละประมาณ 50 เส้น แต่ถ้าร่วงมากกว่านั้นจะถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นปัญหาศีรษะล้าน การทำ prp ผม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการดูแลรักษาและแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางได้
prp ผม คืออะไร
prp ผม เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่จะช่วยในเรื่องของการปลูกผม ที่ได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษาอาการผมร่วงผมบางโดยเฉพาะ โดยที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องเจ็บตัว โดยการนำเกล็ดเลือดของตนเองมาปั่นโดยใช้เครื่องเหวี่ยงสารเพื่อแยกเกล็ดเลือด
ซึ่งจะแยกเฉพาะส่วนที่เป็นพลาสมาออกจากเลือดมาใช้ ซึ่งพลาสมาในเลือดที่ได้มานั้นจะอุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น และสารต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่า Growth Factor สารเหล่านี้ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ แพทย์จะฉีด prp หรือที่เรียกว่าเกล็ดเลือดเข้มข้นเข้าไปที่หนังศีรษะในส่วนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เพื่อให้สารใน prp ไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ทำให้ผมที่งอกออกมาใหม่ มีขนาดเส้นผมที่หนามากขึ้นและแข็งแรงมากขึ้น ผมดูหนาขึ้น
และการทำ prp ผม ยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่หยุดการทำงานไปแล้ว กลับมาทำงานและงอกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมทั้งบำรุงเซลล์รากผมให้กลับมาแข็งแรง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้ในระยะยาว ทำให้ผมกลับมาดูหนาและแข็งแรงมากขึ้น การ prp ผม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาแบบธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อร่างกาย มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการแพ้ต่ำมาก และที่สำคัญใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน
ใครที่ควรทำ prp ผม
การทำ prp ผม เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง มีภาวะผมร่วงเป็นหย่อม หรือมีผมเส้นเล็กที่ยังมีรากผมอยู่แต่ไม่ยาวหรือไม่แข็งแรง และอยากทำการรักษาให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นแต่ไม่อยากผ่าตัด กังวลเรื่องการผ่าตัด กลัวเจ็บ ไม่อยากดมยาสลบ หรือ กังวลเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด รวมไปถึงคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด ซึ่งจะเหมาะกับการทำ prp ผม มากกว่าการผ่าตัดปลูกผมในรูปแบบอื่น
การรักษาและแก้ปัญหาผมด้วยเทคนิคการทำ prp ผม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงและผมบางได้ดี แต่ก่อนจะทำการ prp ผม ทุกครั้ง จะต้องมีการตรวจสภาพเซลล์รากผมและหนังศีรษะก่อน ว่าเซลล์รากผมยังสามารถกลับมาทำงานได้ปกติเพื่องอกเส้นผมใหม่ได้หรือไม่ หรือเซลล์รากผมเสื่อมสภาพไปแล้ว หากเซลล์รากผมยังสามารถงอกเส้นผมใหม่ได้
แพทย์มักจะแนะนำให้ทำ prp ผม แต่ถ้าหากเซลล์รากผมเสื่อมสภาพหมดแล้ว ไม่สามารถงอกผมได้ใหม่ แพทย์อาจจะแนะนำการผ่าตัดปลูกผม FUE หรือ FUT แทน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า ซึ่งการทำ prp ผม เป็นเพียงการรักษาเสริม อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะที่ไม่มีรากผม
เนื่องจากจะมองไม่เห็นรูขุมขน และไม่เหมาะกับผู้ที่ทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคโลหิตจาง ความดัน เพราะเลือดอาจไม่สมบูรณ์พอที่จะนำมาใช้ ทั้งนี้วิธีรักษาอาการผมร่วงผมบางของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและประเมินสภาพเซลล์รากผมและหนังศีรษะก่อน เพื่อการรักษาที่ถูกวิธีและตรงจุด
ข้อดีของการทำ prp ผม
การ prp ผม เป็นการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ซึ่งการทำ prp ผม เป็นการใช้สารที่มาจากตัวเราเอง (autologous) ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้ การไม่เข้ากันของภูมิคุ้มกัน หรือการติดเชื้อได้ ไม่อันตรายต่อร่างกายและไม่อัตรายต่อชีวิต และนอกจากนี้การทำ prp ผม ยังมีข้อดีอื่นๆ ได้แก่
-การทำ prp ผม เป็นวิธีรักษาอาการผมร่วง ผมบางที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
-เป็นการรักษาเรื่องของผมที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน
-ไม่มีรอยแผลเป็นหลังทำ ขนาดแผลจะมีแค่แผลจากการฉีด prp เท่านั้น ซึ่งมีขนาดเล็กมาก เมื่อหายก็ไม่ทิ้งรอย
-การเกิดอาการแทรกซ้อน หรือ แพ้น้อยมาก เพราะเป็นเลือดจากร่างกายของตนเอง
-การทำ prp ผม สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้ เช่น การทำเลเซอร์ผม การรับประทานยา การใช้ผลิตภัณฑ์ปลูกผม เป็นต้น
ข้อจำกัดของการทำ prp ผม
วิธีรักษาอาการผมร่วงผมบางด้วยการทำ prp ผม ไม่ใช่การปลูกผมถาวร การทำ prp ผม จะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลได้อย่างชัดเจนกับคนที่ยังมีเซลล์รากผมหลงเหลืออยู่เท่านั้น และการทำ prp ผม ไม่เหมาะกับ
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือ ละลายลิ่มเลือด
- ผู้เคยมีประวัติ มีผื่น หรือมีอาการแพ้ หลังฉีด prp
- ผู้ที่มีไข้หรือเพิ่งเจ็บป่วย
การทำ prp ผม ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น
- ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดหรือกระดูก ผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางประเภท โรคผิวหนังที่มีการอักเสบ หรือติดเชื้อบริเวณ ศีรษะ เช่น เป็นเชื้อรา
- ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง หรือผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับโรคเลือด เช่น โรคเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ที่กำลังมีภาวะโรคติดเชื้อในกระแสเลือด
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง เพราะเลือดอาจไม่สมบูรณ์พอที่จะนำมาใช้ในการทำ prp ได้
อาการข้างเคียงของการทำ prp ผม
การทำ prp ผม เป็นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีหรือมีการผ่าตัด จึงไม่มีผลกระกบต่อร่างกายและสุขภาพ เพราะสิ่งที่จะฉีดเข้าไปได้มาจากเกล็ดเกลือดในร่างกาย มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมาก แต่การทำ prp ผม ก็อาจจะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้บ้าง โดยผลเคียงของการทำ prp ผม มีดังนี้
- การติดเชื้อ ซึ่งมีโอกาสเกิดน้อยมาก แต่ถ้าหลังการทำ prp ผมแล้ว ไปบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ หรือไปว่ายน้ำที่แหล่งน้ำธรรมชาติ อาจจะมีโอกาสติดเชื้อได้
- การเจ็บหรือบวมบริเวณที่ฉีด
- หลอดเลือดและเส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ อาจจะมีอาการช้ำ หรือชาระยะสั้นๆ แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้น
- อาการแพ้ที่เกิดจากการทำ prp ผม เช่น คัน มีผื่น แม้จะมีโอกาสน้อยมาก หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบแจ้งแพทย์ได้ทันที
ซึ่งหลังเข้ารับการทำ prp ผม ผู้เข้ารับการรักษาผมร่วง ผมบาง ควรปฏิบัติดังนี้
- ใน 24 ชั่วโมงแรก หลังจากทำ prp ผม ห้ามสระผมผมโดนน้ำ และออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการใช้ สเปรย์และเจลจัดแต่งทรงผม
- หลังจากทำ prp ผม ประมาณ 48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
- ใน 2-3 วัน ห้ามรับประทานยาแอสไพรินและไอบูโพรเฟ่น หลีกเลี่ยงการเกาหรือขยี้รุนแรง เพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- หลังการทำไม่แนะนำให้แชมพูสระผมสูตรทั่ว ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง
- หลังจากทำ prp ผม อาจจะเกิดอาการบวมหลังทำ สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมได้ ซึ่งอาการบวมจะหายภายใน 1-3 วัน และหากเกิดรอยช้ำจะหายภายใน 7 วัน หากมีอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังการทำควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้รักษาโดยทันที
สรุป
การทำ prp ผม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและดูแลรักษาเรื่องของผมร่วง ผมบาง ชะลออาการผมร่วง บำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แทบจะไม่มีอาการข้างเคียงที่เป็นอันตราย
เนื่องจากไม่ใช้สารเคมี ใช้เกล็ดเลือดจากร่างกายตนเอง จุดเด่นของการทำ prp ผม อยู่ที่ไม่ต้องผ่าตัด มีความปลอดภัย ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เห็นผลได้ภายใน 2-3 เดือนหากมีการพบแพทย์และเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ การทำ prp ผม จึงเป็นที่นิยมมากและเห็นผลได้อย่างชัดเจนในปัจจุบัน