บุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยจริงไหม การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายอย่างไรบ้าง

การสูบบุหรี่เป็นความนิยมมาตั้งแต่สมัยอดีตแล้ว เนื่องจากผู้สูบจะดูเท่ดุดันหากคุณสูบบุหรี่เป็น และในปัจจุบันนี้การสูบบุหรี่ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ จนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ในตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่น เนื่องจากมีความเท่ ดูทันสมัย ดีไซน์สวยงาม และพกพาง่าย

อีกหนึ่งจุดเด่นของ บุหรี่ไฟฟ้า คือ คุณสามารถเลือกรสชาติ และกลิ่นได้ตามความชอบเลย แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นข้อดีมากมาย แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ถึงข้อเสียจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัย โทษของบุหรี่ไฟฟ้ามีผลต่อร่างกายของคุณอย่างไรบ้าง

บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร

บุหรี่ไฟฟ้าคือ บุหรี่ที่ใช้กลไกไฟฟ้า ภายในบุหรี่ไฟฟ้ามีอุปกรณ์ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่  ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน และน้ำยา โดยกลไกในการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้าก็มีกระบวน การเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่ปกติทั่วไป

ภายในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีช่องใส่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมมาจากสารเคมีต่างๆ ได้แก่ นิโคติน โพรไพลีนไกลคอล กลีเซอรีน สารแต่งกลิ่นและรสชาติ ในส่วนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นจุดเด่นของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าต้องการสูบนิโคตินมากหรือน้อยก็ได้ กลิ่นและรสชาติได้ตามความชอบของผู้ใช้งาน

ซึ่งสารเคมีดังกล่าวที่นำมาใช้ทำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นสารที่ใช้กับอาหารทั่วๆ ไป จึงมีความปลอดภัยในการรับประทานเข้าสู่ร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีงานวิจัยมายืนยันว่าการใช้สารเคมีดังกล่าวนี้ ที่เรานำมาเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของไอเพื่อให้คุณนำมาสูบดมจะไม่มีผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว

บุหรี่ไฟฟ้าสูบแล้วปลอดภัยจริงไหม?

บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายไหม มีความปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวนอย่างไร? หากเทียบสารที่อยู่ในบุหรี่ธรรมดาจะมีสารอื่นๆ อีกมากถึง 7,357 ชนิด จากการศึกษาพบว่ามีสารในนั้นอย่างน้อย 70 ชนิดที่เป็นตัวก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

สำหรับสารที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นเพียงสารระเหยอื่นๆ ที่ทางโรงงานผลิตออกมา โดยมีส่วนผสมมาจากสารที่ใช้กับอาหาร จึงค่อนข้างมีความปลอดภัยมากกกว่าการสูบบุหรี่แบบทั่วไป อีกทั้งในบุหรี่ไฟฟ้าคุณยังสามารถเลือกระดับปริมาณของนิโคตินในการสูบได้อีกด้วย จึงเป็นข้อดีอีกอย่างที่จะช่วยให้ผู้สูบมีความปลอดภัยในเรื่องของสุขภาพมากกว่าบุหรี่ธรรมดานั้นเอง

บุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวนอย่างไร?

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยจริงไหม? คำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเปรียบเทียบในจุดไหน เพราะถ้าเปรียบเทียบในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์บุหรี่ธรรมดาที่เป็นเพียงแค่มวนกระดาษ ข้อดีคือมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และหาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป จะมีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ไฟฟ้า

ส่วนข้อเสียของบุหรี่ธรรมดา คือความหักเปราะบางง่าย ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าได้เปรียบกว่า เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีความแข็งแรงทนทาน สูบได้นานกว่าบุหรี่แบบธรรมดา แต่เนื่องจากสามารถชาร์จไฟ และมีแบตเตอรี่ในตัว ทำให้ใช้งานได้นานกว่าบุหรี่ธรรมดาก็ตาม

แต่ผู้ใช้ยังต้องระมัดระวังทำตามขั้นตอนในการใช้งาน เพราะการใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็เปรียบเหมือนกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถเกิดการช็อต การรัดวงจร หรือการไหม้ได้เสมอหากผู้ใช้ใช้งานไม่ใช้ถูกวิธี ดูแลทำความสะอาดให้ดีก็เป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับใครที่กังวลว่าพอตอันตรายไหม การใช้พอตก็ต้องระมัดระวังเช่นกัน หากคุณเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไม่ถูกวิธี หรือคุณยังใช้พอตที่เริ่มเสื่อมสภาพก็สามารถเกิดการไหม้ได้  ดังนั้นหากคุณอยากใช้บุหรี่ไฟฟ้าให้ปลอดภัยวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันอันตรายได้อย่างคือ คุณควรเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นของแท้ ผ่านมาตรฐานรับรองจริง ร้านมีความน่าเชื่อถือ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากการใช้งาน

บุหรี่ไฟฟ้าอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากเลิกบุหรี่?

สำหรับใครที่กำลังอยากจะเลิกบุหรี่ หากคุณกำลังเริ่มต้นการเลิกบุหรี่อยู่ละก็ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็สามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าผู้สูบสามารถเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีปริมาณนิโคตินได้ตามปริมาณที่ต้องการ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากเลิกบุหรี่

ถึงแม้ว่าคำแนะนำของเราอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีในการเลิกบุหรี่ เพราะก็ยังมีสารเสพติดนิโคตินอยู่บ้าง แต่วิธีนี้เป็นวิธีการลดการสูบบุหรี่แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อจะเป็นสร้างวินัยให้คุณเสพติดนิโคตินในบุหรี่ให้น้อยลง

เพราะการจะเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ทันทีเลยนั้น จะต้องใช้เวลา และแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป บางคนมีวิธีการเลิกบุหรี่โดยใช้วิธีหักดิบคือ ไม่หยิบขึ้นมาสูบ ไม่ยุ่งเกี่ยวอีกเลย แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดปริมาณที่มีนิโคตินให้น้อยลง

ผลกระทบสุขภาพจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

การสูบบุหรี่มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอน แล้วในบุหรี่ไฟฟ้าโทษต่อร่างกายมากมาย เพราะในพอตข้อเสียต่อร่างกายมีส่วนประกอบที่ทำมาจากสารเคมี ดังนี้

• สารโพรไพลีนไกลคอล

ในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารโพรไพลีนไกลคอล ที่เมื่อคุณสูดดมเข้าไปในร่างกาย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตามบริเวณผิวหนัง ดวงตา และปอดได้ สารนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง นอกจากนี้ในบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารประกอบที่อาจก่ออันตรายต่อร่างกาย ได้แก่ โลหะหนัก สารหนู สารกลุ่ม Formaldehyde และกลุ่ม Benzene เป็นต้น

• นิโคติน

อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้าโดยส่วนมากมาจากปริมาณนิโคติน เมื่อเข้าไปในร่างกายจะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด โรคเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ เพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ มะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร และตับอ่อนอีกด้วย

นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานยังไม่ควรรับนิโคตินเข้าไปในร่างกาย เนื่องจากจะไปกระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น และการใช้นิโคตินเป็นระยะเวลานาน ยังกระตุ้นให้จำนวนเซลล์ผนังหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเส้นเลือดตีบ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

ยิ่งในสตรีมีครรภ์คุณไม่ควรสูบบุหรี่อย่างมาก เพราะมีนิโคตินส่งผลต่อการพัฒนาของสมองทารกในครรภ์ด้วย และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตให้กับทารก และแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะสามารถเลือกปริมาณนิโคตินน้อยๆ ได้ แต่ถ้าคุณสูบอย่างเป็นประจำ และบางคนที่ชอบสูบแบบอัด

คุณก็ยังได้รับปริมาณนิโคตินที่มากกว่าสูบบุหรี่ธรรมดาได้หลายเท่าตัว และเมื่อคุณขาดนิโคตินหรือไม่สูบบุหรี่ ก็จะเกิดอาการกระวนกระวาย เป็นผลทำให้คุณเสพติดนิโคตินโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นการสูบบุหรี่ไฟฟ้าโทษ คือการเสพนิโคตินและสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายอยู่ดี

ทางเลือกในการเลิกบุหรี่

แม้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณนิโคตินน้อยอาจจะพอช่วยลดความยากบุหรี่ลงได้บ้าง แต่วิธีการเลิกบุหรี่ที่ได้ผลในระยะยาว ยังมีอีกหลายวิธี ดังนี้

1. การออกกำลังกาย สามารถทำให้การยากบุหรี่น้อยลงได้ และการออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียดลงได้ดีด้วย
2. การเคี้ยวหมากฝรั่งหรือลูกอม แทนเวลาที่คุณรู้สึกอยากบุหรี่
3.  หากิจกรรมที่ชอบทำในยามว่าง เช่น หางานอดิเรกทำ ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายลง และลดความเครียดลง
4. ใช้ยาช่วยเลิกสูบบุหรี่ แต่วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ตั้งแต่ 10 มวนต่อวัน และในปัจจุบันร้านขายยาทั่วไปก็มียาหลากหลาย และให้ผลดีมาก เช่น ยาวาเรนิคลิน ยาบูโบรพิออน และนิโคตินทดแทน
5. คุณควรเก็บซองบุหรี่ให้พ้นจากสายตา และพยายามลดการพบปะกับกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบการสูบบุหรี่ในช่วงที่พยายามเลิกบุหรี่
6. การหักดิบจากบุหรี่ทันที วิธีนี้จะได้ผลดีกว่าการค่อยๆ หยุด มีโอกาสเลิกติดบุหรี่ได้สำเร็จได้ในระยะยาว
7. การได้รับกำลังใจจากคนในครอบครัวก็มีความสำคัญ และยิ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ที่กำลังจะเลิกสูบบุหรี่ให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

แม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะล้มเหลวในการพยายามจะเลิกบุหรี่ในครั้งแรก เพราะไม่สามารถทนต่ออาการอยากบุหรี่ได้ โดยอาการดังกล่าวคือ เริ่มหงุดหงิด กระวนกระวาย วิตกกังวล เครียด นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ เป็นต้น ซึ่งคุณจะต้องทนกับอาการเหล่านี้ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกของการหยุดสูบบุหรี่ หากคุณสามารถพ้นระยะนี้ไปแล้ว อาการดังกล่าวจะค่อยๆ บรรเทาลงจนหายไปในที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดของกระบวนการเลิกสูบบุหรี่คือ ความตั้งใจแน่วแน่ในการเลิกสูบบุหรี่ เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าอยากกลับไปสูบบุหรี่ อยากให้คุณระลึกถึงสุขภาพที่ดีขึ้นหากปราศจากบุหรี่ ดังนั้น จงอย่าลดความพยายามที่จะทำต่อไป นอกจากนี้หากคุณมีคำถามในการเลิกสูบบุหรี่ ต้องการคำแนะนำในการเลิกสูบบุหรี่คุณสามารถต่อสายตรงเลิกบุหรี่ 1600