แอร์ติดผนัง ตัวช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต

ประเทศที่มีอากาศร้อนเกือบตลอดเวลา เช่น ประเทศไทย ทำให้ความต้องการในเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางขึ้นไปต้องมีแอร์ปรับอากาศไว้ในครัวเรือนอย่างน้อย 1 เครื่อง และเครื่องแอร์ที่นิยมใช้ตามบ้านเรือนทั่วไปก็คือ แอร์ติดผนังซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด

แอร์ติดผนัง หรือ แอร์ Wall Type คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่สามารถปรับอากาศให้คลายความร้อนภายในบริเวณพื้นที่ที่มีการติดตั้ง และยังช่วยเพิ่มความรู้สึกที่เย็นฉ่ำ สบายตัว นิยมใช้กันตามบ้านเรือนทั่วไปเพราะมีขนาดที่กะทัดรัด ส่วนใหญ่ขนาดของ BTU ของเครื่องแอร์จะไม่เกิน 24,000 BTU 

ลักษณะการติดตั้งจะติดเข้ากับผนังสูงจากพื้นในระยะที่ไม่สามารถเอื้อมถึงจึงไม่เกะกะพื้นที่ภายในห้อง และเหมาะกับห้องขนาดเล็กที่จุคนไม่เยอะ การติดตั้งและการทำความสะอาดก็ง่าย แถมราคาก็ถูกกว่าแอร์บ้านประเภทอื่น

แอร์ติดผนังมีข้อดีอย่างไร ที่ไม่ควรพลาด 

เครื่องปรับอากาศประเภทแอร์ติดผนังมักเป็นที่นิยมใช้กันตามบ้านเรือนทั่วไป ก็เพราะมีข้อดีอยู่มากมาย เช่น

• ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน พร้อมดูแลรักษาก็ง่าย ทนทาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• เป็นเครื่องแอร์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด
• ให้ความเย็นทั่วถึงทุกพื้นที่ของห้อง แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟ
• ราคาไม่นับว่าสูงเมื่อเทียบกับแอร์ปรับอากาศประเภทอื่น 
• เป็นเครื่องปรับอากาศติดผนังที่มีขนาดการทำความเย็น (BTU) ให้เลือกได้ตามความเหมาะสม ตั้งแต่ 9,000 – 24,000 BTU ขึ้นกับขนาดพื้นที่ติดตั้ง
• ปัจจุบันแอร์ปรับอากาศยังมีคุณสมบัติในการปรับสภาพอากาศภายในพื้นที่ให้สดชื่น ปลอดฝุ่น PM2.5 พร้อมขจัดแบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ไปด้วย

การทำความเข้าใจในระบบการทำงานของแอร์ติดผนัง 

แอร์ติดผนังมีหลักการทำงานโดยการใช้สารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) เป็นตัวกลางดูดซับความร้อนภายในห้องแล้วส่งออกไปนอกห้อง ด้วยการใช้กระบวนการเปลี่ยนสารทำความเย็นให้เป็นไอ (ก๊าซ) ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนภายในห้อง ก่อนเปลี่ยนสถานะกลับเป็นของเหลวเพื่อคายความร้อนออกไปนอกห้อง 

ส่วนประกอบสำคัญของระบบทำงานของเครื่องปรับอากาศจะประกอบด้วย 4 ส่วนคือ คอมเพรสเซอร์ (Compressor), คอยล์ร้อนหรือคอนเดนเซอร์ (Condenser), อุปกรณ์ควบคุมสารทำความเย็น (Throttling Device) และ คอยล์เย็นหรืออีวาพอเรเตอร์ (Evaporator)

ปัจจุบันแอร์ปรับอากาศที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบธรรมดา และ ระบบอินเวอร์เตอร์ โดยมีรายละเอียดการทำงานเป็นดังที่จะกล่าวต่อไปนี้

แอร์ติดผนังธรรมดา

การทำงานของแอร์ติดผนังระบบธรรมดานั้น เมื่อเริ่มเปิดเครื่องปรับอากาศ อุณหภูมิจะค่อย ๆ ลดต่ำลงกว่าระดับที่ตั้งไว้ประมาณ 1-2 องศา หลังจากนั้นคอมเพรสเซอร์ของเครื่องแอร์จะตัดการทำงาน จากนั้นอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นจนเกินระดับที่ตั้งไว้ 1-2 องศา ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องกลับมาทำงานอีกครั้งจนกระทั่งอุณหภูมิภายในห้องเย็นเกินไป แล้วก็สลับกับร้อนเกินไป ซึ่งลูปนี้จะวนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ปิดแอร์คอนดิชั่น

ลักษณะของระบบการทำงานของแอร์ติดผนังธรรมดาไม่เหมาะกับการใช้งานแบบต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน เช่น ห้องนอน เป็นต้น เพราะก่อให้รู้สึกไม่สบายตัว รู้สึกหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน นอกจากนี้ยังเหมาะกับการใช้งานเพียงอาทิตย์ 1-2 ครั้ง สามารถสังเกตค่าประสิทธิภาพของเครื่องแอร์ระบบธรรมดาจะเป็น EER

แอร์ติดผนัง Inverter

สำหรับแอร์ติดผนัง Inverter คือ แอร์คอนดิชั่นที่มีระบบควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ที่คอยทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) ที่รับมาจากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ให้กลายเป็นไฟกระแสตรง (DC) ด้วยวงจรคอนเวอร์เตอร์ (Converter Circuit)

หลังจากนั้นไฟกระแสตรงที่ได้จะถูกแปลงกลับมาเป็นกระแสไฟสลับโดยวงจรอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit) เพื่อให้สามารถปรับขนาดของแรงดันและความถี่ได้ และเมื่อได้เปิดเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ อุณหภูมิก็จะค่อย ๆ ลดจนถึงระดับที่ตั้งไว้ 

แล้วคอมเพรสเซอร์ก็จะทำหน้าปรับรอบการทำงานช้าลงเพื่อให้อุณหภูมิภายในห้องคงที่สม่ำเสมอเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ถึง 20-30% เพราะการทำงานของคอมเพรสเซอร์ไม่ได้ถูกตัดบ่อยหรือถูกรีเซตใหม่เมื่อได้อุณหภูมิที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ระบบอินเวอร์เตอร์ยังช่วยให้เครื่องเดินเบา ลดไฟกระชากอีกด้วย

การทำงานของแอร์ติดผนังระบบ Inverter จะให้ความรู้สึกสบายตัว ไม่หนาว ๆ ร้อนตลอดเวลาที่เครื่องแอร์ทำงานอยู่ สำหรับเครื่องปรับอากาศระบบนี้เหมาะกับการใช้งานทุกวัน ๆ ละ 6 ชั่วโมงขึ้นไป และมีค่าประสิทธิภาพเป็น SEER

ปัจจัยที่ใช้ในการเลือกซื้อแอร์ติดผนังที่ใช่

เนื่องจากเครื่องปรับอากาศที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมีอยู่หลายประเภท เช่น แอร์ติดผนัง (Wall Type), แอร์แบบตั้งพื้นหรือแขวน (Ceiling/Floor Type), แอร์แบบฝังติดเพดาน, ระบบปรับอากาศในอาคาร (HVAC), แอร์แบบตู้ตั้งพื้น (Package Type), แอร์แบบเคลื่อนที่ (Movable Type) และแอร์แบบหน้าต่าง ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป 

ในบทความนี้เราจะเน้นกล่าวถึงปัจจัยที่ใช้พิจารณาในการเลือกซื้อแอร์ติดผนัง คือ

1. ขนาดพื้นที่ห้อง เนื่องจากใช้พื้นที่น้อย จึงเหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ควรเป็นห้องขนาดใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้เครื่องแอร์ทำงานหนักและความเย็นไม่ทั่วถึง ดังนั้นควรเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องอีกด้วย
2. ควรเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีเสียงการทำงานที่ค่อนข้างเงียบเพราะพื้นที่ใช้งานมีขนาดเล็ก จึงไม่เหมาะกับการมีเสียงดังจากแอร์คอนดิชั่น
3. ลักษณะการใช้งาน สามารถควบคุมง่ายด้วยการใช้รีโมทคอนโทรลทั้งปิด-เปิด ตั้งอุณหภูมิ ตั้งระยะเวลาที่ใช้งาน เป็นต้น
4. เวลาในการใช้งานเป็นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งต่อวัน เช่น เวลานอนตอนกลางคืน เป็นต้น
5. งบประมาณที่ใช้ไม่สูง เพราะแอร์ปรับอากาศที่ใช้มีขนาดเล็ก เช่น แอร์ติดผนังราคาจะไม่สูงเกินไป
6. เลือกเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 
7. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่บ่งบอกถึงความทนทาน ประสิทธิภาพการใช้งาน และบริการหลังการขายที่ดี
8. มีอายุการรับประกัน พร้อมโปรโมชันพิเศษที่ได้จากการซื้อเครื่องแอร์ เช่น ล้างแอร์ฟรี 2 ครั้ง ฯลฯ

การพัฒนารูปแบบดีไซน์ของแอร์ติดผนัง 

เครื่องปรับอากาศประเภทแอร์ติดผนังได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการปรับอากาศให้เย็นทั่วถึงแล้วยังมีการออกแบบดีไซน์เพื่อให้ทันสมัย สวยงาม ช่วยเสริมแต่งให้เข้ากับห้องทำให้ดูหรู โมเดิร์น สบายตา นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสีสันบนตัวเครื่องแอร์เพื่อใช้ตกแต่งห้องประหนึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอีกอย่างหนึ่ง

รูปแบบการดีไซน์ของแอร์ติดผนังนั้นนอกจากสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านทำความเย็นโดยการควบคุมอุณหภูมิ ยังมีการใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อปรับประสิทธิภาพของเครื่องแอร์ให้สูงขึ้น เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ห้องดูน่าสนใจ น่าใช้งาน

สรุป แอร์ติดผนัง ที่ตอบโจทย์การใช้งาน 

แอร์ติดผนัง หรือ แอร์บ้าน เป็นแอร์ขนาดเล็กที่แต่ละแบรนด์ได้ทำการออกแบบดีไซน์มาให้มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า และเหมาะสำหรับติดตั้งกับทุกสถานที่ และมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องแอร์ประเภทอื่น ๆ 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันหลากหลายให้เลือกใช้กัน เช่น ระบบสั่งปิด-เปิด, ระบบฟอกอากาศ, ระบบตรวจจับบุคคล, โหมดขณะหลับ เป็นต้น ดังนั้นควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องปรับอากาศที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ที่มีมูลค่าไม่น้อย เพื่อจะได้รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป