เคยสงสัยไหมว่า ทำไมตู้คอนเทนเนอร์แต่ละประเภทถึงแตกต่างกัน? การทำความเข้าใจ ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ เป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งออก ผู้นำเข้า เพราะจะช่วยให้สามารถเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์ได้เหมาะสมกับสินค้าอย่างแม่นยำ ลดความเสียหาย รวมถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
บทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ตั้งแต่ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานไปจนถึงตู้คอนเทนเนอร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อขนส่งสินค้าประเภทต่าง ๆ มาเรียนรู้กันว่า ประเภทตู้คอนเทนเนอร์แต่ละแบบมีคุณสมบัติอย่างไร และเหมาะกับการนำเข้า ขนส่งสินค้าอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลย
มารู้จักกับ 7 ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ ที่ใช้ขนส่งสินค้า
ตู้คอนเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญในการนำเข้า ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มีขนาดมาตรฐานสามารถใช้ขนส่งสินค้าได้หลากหลายประเภท ตู้คอนเทนเนอร์มีหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและจุดเด่นแตกต่างกัน เพื่อให้เลือกใช้ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ได้อย่างเหมาะสมกับสินค้าที่จะขนส่ง มาทำความรู้จักกับตู้คอนเทนเนอร์แต่ละประเภทและลักษณะตู้คอนเทนเนอร์กันได้เลย
1. ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน (Dry Container)
- ลักษณะ: Dry Container เป็นตู้คอนเทนเนอร์ประเภทแบบพื้นฐานที่สุด มีผนังทึบแข็งแรง ปิดสนิท เหมาะสำหรับบรรจุสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องควบคุมอุณหภูมิหรือความชื้น
- จุดเด่น: ผลิตจากเหล็กกล้ามีความแข็งแรงสูง สามารถปกป้องสินค้าจากความเสียหายภายนอกได้เป็นอย่างดี มีราคาที่ถูกสุด เมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ ใช้งานง่ายมีโครงสร้างเรียบง่าย สะดวกต่อการบรรจุหรือขนย้ายสินค้า
- เหมาะสำหรับ: สินค้าแห้งทั่วไป เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า กระดาษ และสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ
2. ตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ (Flat-rack Container)
- ลักษณะ: Flat-rack Container ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้ไม่มีผนังด้านข้าง ทำให้สามารถบรรจุสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือยาวได้
- จุดเด่น: มีความยืดหยุ่นสามารถบรรจุสินค้ามีขนาดใหญ่หรือยาว เช่น เครื่องจักรหนัก วัสดุก่อสร้างสะดวกในการเข้าถึงสามารถเข้าถึงสินค้าได้จากทุกด้าน
- เหมาะสำหรับ: สินค้ามีขนาดใหญ่เกินกว่าจะบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานได้ สินค้าที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึง
3. ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container)
- ลักษณะ: Reefer Container /Refrigerator Containerเป็นประเภทตู้คอนเทนเนอร์ที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ สามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับชนิดของสินค้าที่บรรจุ
- จุดเด่น: ควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิต่ำสำหรับสินค้าแช่แข็ง หรืออุณหภูมิสูงสำหรับสินค้าที่ต้องการความอบอุ่น
- เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าที่ต้องการความเย็น: เช่น อาหารแช่แข็ง ผัก ผลไม้ ยา รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
4. ตู้คอนเทนเนอร์บรรจุเสื้อผ้า (Garment Container)
- ลักษณะ: Garment Container ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับขนส่งเสื้อผ้า โดยเฉพาะ มีราวแขวนเสื้อผ้าอยู่ภายในสามารถขนส่งได้โดยไม่ต้องพับ ทำให้ไม่เสียรูปทรง
- จุดเด่น: ช่วยป้องกันเสื้อผ้าไม่ให้ยับหรือเสียหายระหว่างขนส่ง และประหยัดพื้นที่สามารถแขวนเสื้อผ้าได้จำนวนมาก
- เหมาะสำหรับ: ใช้ขนส่งสินค้าจำพวกเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องแต่งกาย แฟชั่น
5. ตู้คอนเทนเนอร์เปิดหลังคา (Open Top Container)
- ลักษณะ: Open top container เป็นประเภทตู้คอนเทนเนอร์ไม่มีหลังคา ด้านบนเปิดโล่ง ทำให้สามารถบรรจุสินค้าที่มีความสูงเกินกว่ามาตรฐานได้
- จุดเด่น: ความยืดหยุ่น: สามารถบรรจุสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือสูง เช่น เครื่องจักรขนาดใหญ่ ท่อเหล็ก วัสดุก่อสร้างสะดวกในการขนถ่าย: สามารถใช้เครนยกสินค้าขึ้นหรือลงจากตู้ได้โดยตรง
- เหมาะสำหรับ: สินค้ามีขนาดใหญ่เกินกว่าจะบรรจุผ่านประตูตู้คอนเทนเนอร์ประเภทมาตรฐานได้ สินค้าที่ต้องการระบายอากาศ
6. ตู้คอนเทนเนอร์แบบถัง (ISO Tank Container)
- ลักษณะ: ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทนี้มีโครงสร้างถังภายในเป็นถังขนาดใหญ่ทำจากวัสดุทนทานต่อสารเคมี
- จุดเด่น: ISO Tank Container มีระบบท่อและวาล์วที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมการเติมหรือระบายของเหลวได้อย่างแม่นยำ บางรุ่นจะมีฉนวนกันความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิของของเหลวให้คงที่ มีระบบป้องกันการรั่วไหลและระบบระบายอากาศ เพื่อความปลอดภัยของสินค้า
- เหมาะสำหรับ: ขนส่ง หรือนำเข้าของเหลวทุกชนิด ทั้งของเหลวทั่วไป เช่น น้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิง และของเหลวที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สารเคมีอันตรายที่ต้องควบคุมการรั่วไหลเป็นพิเศษ หรือใช้สำหรับขนส่งอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มที่บรรจุในภาชนะบรรจุ
7. ตู้คอนเทนเนอร์แบบระบายอากาศ (Ventilated Container)
- ลักษณะ : Ventilated Container หรือตู้คอนเทนเนอร์ประเภทระบายอากาศ เป็นตู้คอนเทนเนอร์ชนิดหนึ่งที่ออกแบบมามีช่องระบายอากาศอยู่บริเวณด้านล่างและด้านบนของตู้ เพื่อให้ระบายอากาศหรือกันไอน้ำภายในตู้ได้ดี
- จุดเด่น: มีช่องระบายอากาศอยู่บริเวณผนังหรือประตู ทำให้มีการไหลเวียนของอากาศภายในตู้ได้ดีป้องกันความชื้น ป้องกันสินค้าเน่าเสียช่วยยืดอายุของสินค้า ป้องกันการเกิดเชื้อราและสูญเสียคุณภาพ
- เหมาะสำหรับ: สามารถใช้ขนส่งสินค้าได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะขนส่งสินค้าทางการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ เมล็ดพืช หรือสมุนไพร
การเลือกประเภทตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งสินค้า
การเลือกประเภทตู้คอนเทนเนอร์ให้เหมาะสมกับสินค้าที่จะขนส่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยของสินค้า ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และระยะเวลาในการขนส่ง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ลักษณะของสินค้า
- ขนาดและน้ำหนัก: สินค้ามีขนาดใหญ่หรือเล็ก น้ำหนักมากหรือน้อย จะส่งผลต่อขนาดและความแข็งแรงของประเภทตู้คอนเทนเนอร์ที่ต้องเลือกใช้
- ความเปราะบาง: หากสินค้ามีความเปราะบาง เช่น เครื่องแก้ว เซรามิก จะต้องเลือกตู้คอนเทนเนอร์ที่มีระบบป้องกันการกระแทกที่ดี
- ความต้องการด้านอุณหภูมิ: สินค้าบางชนิด เช่น อาหารแช่แข็ง ยา ต้องควบคุมอุณหภูมิในการขนส่ง จึงต้องเลือกตู้คอนเทนเนอร์ ประเภทแบบรีเฟอร์ (Reefer Container)
- ความต้องการด้านการระบายอากาศ: สินค้าบางชนิด เช่น ผลไม้ ต้องการระบายอากาศ จึงต้องเลือกประเภทตู้คอนเทนเนอร์ที่มีช่องระบายอากาศ
2. ระยะทางหรือเส้นทางขนส่ง
- ระยะทาง: หากระยะทางขนส่งไกล จะต้องเลือกประเภทตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความแข็งแรงทนทาน
- เส้นทางขนส่ง: เส้นทางการขนส่งที่ผ่านหลายประเทศ อาจต้องพิจารณาถึงกฎระเบียบและข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
3. งบประมาณ
- ค่าเช่าตู้คอนเทนเนอร์: ตู้คอนเทนเนอร์ ประเภทต่าง ๆ จะมีค่าเช่าแตกต่างกัน
- ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง: ค่าใช้จ่ายในการขนส่งจะขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนักของตู้คอนเทนเนอร์
4. ระยะเวลาในการขนส่ง
- สินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว: หากต้องการขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว อาจต้องเลือกใช้บริการขนส่งแบบด่วน ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
วิธีเลือกประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การทำความเข้าใจลักษณะของสินค้า เส้นทางขนส่ง หรืองบประมาณ จะช่วยให้สามารถเลือกใช้ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
สรุปเกี่ยวกับประเภทของตู้คอนเทนเนอร์
ตู้คอนเทนเนอร์มีหลายประเภท ใช้ในการนำเข้า หรือขนส่งสินค้า แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไป สินค้าต้องควบคุมอุณหภูมิ หรือสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ ตู้คอนเทนเนอร์แต่ละประเภทมีจุดเด่นแตกต่างกัน การเลือกใช้ประเภทตู้คอนเทนเนอร์ให้เหมาะจะช่วยให้ขนส่งสินค้าได้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ ควรพิจารณาถึงลักษณะ ขนาดสินค้าให้ดี เพื่อให้ได้ตู้คอนเทนเนอร์ประเภทที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด