ข้อดีของเทคนิคการปลูกผม

ปัจจุบันความเครียด มลภาวะต่างๆของสภาพอากาศ การทำงานที่เคร่งเครียด ก็เป็นอีกปัญหาที่ส่งผลให้บางท่านเกิดปัญหาผมขาดหลุดร่วง ผมบางได้ หรือแม่แต่ปัญหาสุขภาพที่ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าว ทางออกที่ได้รับความสนใจอีกทางหนึ่งของปัญหาผมร่วงด้วยวิธีการปลูกผมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายๆท่านต้องการหาคำตอบ วันนี้เรามาดูข้อมูลการปลูกผมเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินชีวิตกันเถอะ

เลือกปลูกผมดีหรือไม่ การปลูกผมคืออะไรกันนะ

วิธีแก้ปัญหาด้วยการปลูกผม (Hair Transplant) คือ การใช้วิธีด้วยการปลูกถ่ายผมชนิดหนึ่งที่นำเซลล์รากผมของผู้ที่ต้องการรักษาที่อยู่ในบริเวณท้ายทอยที่มีความแข็งแรง รวมทั้งไม่มีฮอร์โมนมาเกี่ยวข้องมากนัก ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ผมมีปัญหาขาดหลุดร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน เพื่อเพิ่มแนวไรผม – เส้นผม ให้ช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจ โดยผมที่ปลูกในบริเวณดังกล่าวจะมีสภาพที่ถาวร แม้จะถูกตัด ถอน หรือถูกโกน ก็สามารถกลับมางอกใหม่ได้อีกครั้งนั้นเอง

ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมแพงหรือไม่

ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมแพงไหม

ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมที่หลายท่านสงสัย ซึ่งราคาปลูกผมในปัจจุบันจะอยู่ในราคาประมาณ 30,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักแสน เนื่องจากราคาเหล่านี้เป็นราคาทั่วไปของตามแต่ละสถานพยาบาลที่รับการรักษาดูแลในเรื่องปลูกผม รวมทั้งราคาของแต่ละท่านแต่ละเคสที่ต้องใช้ดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินความรุนแรงของปัญหาเส้นผมหลุดร่วงที่กำลังเผชิญอยู่นั้นมีความร้ายแรงมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งต้องคำนวณประมาณผมที่ต้องปลูกในบริเวณใดเป็นสำคัญ ทั้งวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึง ความเชี่ยวชาญ เทคนิคที่แพทย์ทำการรักษาด้วยเช่นกัน 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มเติมจะมีด้วยกันดังนี้

  • จำนวนปริมาณกราฟท์ผมที่จำเป็นต้องใช้ในการปลูกผม ซึ่งเป็นราคาแต่ละสถานพยาบาลจะคิดราคาไม่เท่ากัน ยิ่งใช้จำนวนกราฟท์มากยิ่งต้องใช้เวลาในการรักษานานเช่นกัน
  • การใช้เทคนิคเฉพาะตัวของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยแต่ละเทคนิคในการปลูกผมจะมีวิธีที่แตกต่างกันตามความยากง่าย
  • ตัวยาหรือน้ำยาที่ใช้แช่กราฟท์ผมสำหรับปลูกผมก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ไม่ทำให้เซลล์รากผมตาย หากรากผมอยู่ภายนอกร่างกายรวมทั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมนั้นเอง
  • การใช้เครื่องมือที่ทันสมัยต่อการปลูกผม จำเป็นต้องเป็นเครื่องมือพิเศษเฉพาะทางที่สามารถสร้างโอกาสในการทำให้ผมที่ทำการปลูกติด และอยู่รอดมากขึ้นนั้นเอง
  • การดูแลสภาพร่างกาย เส้นผม ควบคู่กับการปลูกผม ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ที่จะช่วยให้การปลูกเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

การปลูกผมจะทำให้ผมขึ้นเป็นปกติได้ภายในกี่เดือน

การปลูกผมด้วยวิธีเจาะ / วิธีผ่าตัด โดยหลังจากปลูกผมด้วยวิธีเหล่านี้ช่วงที่สำคัญที่ต้องดูแลอย่างรอบคอบนั้น จะเป็นช่วงแรกๆ ที่ผ่านการปลูกผม เพราะรากผมจะฝังตัวติดกับผิวหนังศีรษะที่ทำการผ่าตัด จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 – 2 อาทิตย์แรก หากในระหว่างนี้มีการหลุดร่วงของเส้นผมที่ใช้เทคนิคการปลูกผม เส้นผมที่ปลูกใหม่นี้เซลล์รากผมอาจจะหลุดออกไปด้วย 

หากผ่านช่วยระยะเวลา 1 – 2 อาทิตย์หลังผ่าตัดปลูกผม รากผมได้ฝังตัวติดกับหนังศีรษะแล้วนั้น หากพบเจอเส้นผมหลุดร่วงจึงถือว่าเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ รากผมจะเข้าสู่การพักตัวเพื่อให้เส้นผมขึ้นใหม่หลังจากผ่าตัดผ่านพ้นไป 4 – 8 เดือนนั้นเอง

เทคนิคการปลูกผมเจ็บหรือไม่

เทคนิคการปลูกผมเจ็บไหม

ในส่วนของการปลูกผมที่หลายท่านๆมีความกังวล ว่าในขณะเข้ารับการรักษาปลูกผมนั้น จะมีความเจ็บปวดมากหรือไม่ ต้องดูวิธีการเข้ารับการรักษาจะแบบด้วยกัน 2 กรณี คือ 

  • กรณีการปลูกผมด้วยวิธีการไม่ผ่าตัด การฉายแสงเลเซอร์ปลูกผม LLLT หรือการปลูกผม PRP จะเป็นเพียงกระตุ้นด้วยคลื่นไฟฟ้า และการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นเข้าสู่บริเวณที่ต้องการรักษา
  • กรณีการปลูกผมด้วยการเจาะ รวมถึงวิธีการผ่าตัด ทางแพทย์ผู้ทำการดูแลรักษาจะใช้ยาชาเฉพาะจุดให้แก่ผู้เข้ารักษาในระหว่างที่ทำการปลูกผม ซึ่งผู้เข้ารักษาจะไม่มีความรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด 

ซึ่งวิธีการปลูกผมจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่คอยควบคุมดูแลรักษาระหว่างการปลูกผม ถือว่าเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัย ส่งผลข้างเคียงเล็กน้อย หากท่านมีความกังวลสามารถสอบถาม รวมทั้งขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ทำการรักษาได้เช่นเดียวกัน 

วิธีผ่าตัดปลูกผม สามารถพักฟื้นได้กี่วัน

การแก้ไขปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วง ผมบางด้วยวิธีปลูกผมนั้น หลายท่านที่มีความสนใจวิธีการดังกล่าวมักมีความกังวลถึงระยะเวลาในการฟื้นฟูสภาพเส้นผมบริเวณที่ปลูกผม รวมทั้งพักฟื้นให้เส้นผมกลับมามีเส้นผมเป็นปกติ ซึ่งสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกตินั้นจะใช้ระยะเวลานานมากน้อยเพียงใด โดยการปลูกผมแต่ละเทคนิคจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันดังนี้ 

  • วิธีปลูกผมด้วยเทคนิค FUT จะเป็นการปลูกผมแบบดั้งเดิมที่ใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่านตัดประมาณ 3 – 5 วัน ด้วยการผ่าเอาหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยมาเพื่อนำกราฟท์ผมในจำนวนเยอะมาเย็บตามรอยแผลที่ต้องการแก้ไขปัญหาผมบางนั้นเอง โดยมีแผลเย็บเพียง 15 – 30 เซนติเมตร จึงทำให้มีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อย
  • วิธีปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extration) จะเป็นวิธีปลูกผมแบบใหม่ที่จะใช้การเจาะกราฟท์ผมจากเซลล์รากผมเท่านั้น จึงเหมาะกับท่านที่ใช้กราฟท์ผมในการปลูกไม่มากนัก พื้นที่ปัญหาผมบางค่อนข้างน้อย แผลในการปลูกผมจึงเล็กน้อย และใช้ระยะเวลาในพักฟื้นเพียง 1 – 3 วัน แผลบริเวณที่ปลูกจะสมานและเริ่มแห้งได้นั้นเอง

จะเห็นได้ว่าระยะเวลาในการพักฟื้นจะใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยที่ท่านที่เข้ารับการปลูกผมต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เซลล์รากผมที่ปลูกสามารถติด และกลับมาเป็นเส้นผมที่มีการหลุดร่วงตามธรรมชาติได้

วิธีปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด มีอะไรบ้าง

วิธีปลูกผมไม่ผ่าตัดมีอะไรบ้าง

หากท่านใดที่กังวลเกี่ยวกับการปลูกผมด้วยวิธีการผ่าตัด ในปัจจุบันวิธีการปลูกผมที่ไม่ใช้การผ่าตัดให้ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นร่างกาย พร้อมทั้งคอยดูแลทำความสะอาดแผลบริเวณที่ปลูกผมไม่ให้อักเสบ โดยเป็นที่นิยมมีด้วยกันดังต่อไปนี้ 

  • วิธีปลูกโดยไม่ใช้การผ่าตัดวิธีที่ 1 การปลูกผมด้วยการใช้ยารักษา

ปลูกผมด้วยวิธีใช้ยา : วิธีนี้จะเป็นวิธีในการปลูกผมที่มีความปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในกรณีที่บางท่านมีอาการผมร่วง ผมบาง แต่จะไม่สามารถช่วยในเรื่องของศีรษะล้านได้ ซึ่งยาปลูกผมนี้เองที่ต้องเป็นยาปลูกผมโดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากแพทย์ผู้ดูแลจะวินิจฉัยว่าปัญหาผมขาดหลุดร่วงนั้นมาจากสาเหตุอะไร พร้อมทั้งรักษาตามอาการที่แพทย์ได้วินิจฉัยนั้นเอง ยาปลูกผมที่ใช้ในทางการแพทย์ ได้แก่ 

  1. ยาดูทาสเทอไรด์ (DUTASTERIDE) เป็นยาปลูกผมชนิดรับประทาน ใช้สำหรับรักษาต่อมลูกหมากโต มีผลลัพธ์ค่อนข้างดี ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาผมขาดหลุดร่วงให้กลับมาได้ แต่หญิงมีครรภ์ หรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงผู้ที่มีประวัติโรคตับห้ามรับประทานเนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง จะส่งผลให้การพัฒนาอวัยวะของเด็กได้นั้นเอง
  2. ยาฟีนาสเตอไรด์ ( FINASTERIDE ) เป็นยาปลูกผมที่ใช้เฉพาะในเพศชายเท่านั้น เนื่องจากจะช่วยในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศชาย DIHYDROTESTOSTERONE (DHT) ซึ่งมีหน้าที่ทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลงจนเกิดภาวะผมบางในเพศชายนั้นเอง ซึ่งยาปลูกผมชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นให้รากผมเกิดการงอกใหม่โดยกินเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ผลข้างเคียงสำหรับผู้ที่รับประทานยาชนิดนี้คือ ลดความต้องการทางเพศ มีอาการซึมเศร้า เต้านมโต พร้อมทั้งเด็กและสตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน
  3. ยาปลูกผมไมน็อกซิดิล (MINOXIDIL) เป็นยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง ขยายหลอดเลือดเป็นหลัก แต่มีสรรพคุณที่ช่วยในการรักษาอาการผมหลุดร่วง มีทั้งแบบชนิดรับประทานและแบบน้ำใช้ทาภายนอก เป็นตัวยาที่สามารถจับต้องได้ใช้ได้ทั้งเพศชาย เพศหญิง แต่อาจจะมีผลข้างเคียงเมื่อใช้ยานี้คือ มีการระคายเคือง ใจสั่น บางท่านอาจมีขนดกหากทาในบริเวณนั้นมากเกินไป เป็นต้น
  • วิธีปลูกโดยไม่ใช้การผ่าตัดวิธีที่ 2 การปลูกผม PRP (PLATELET RICH PLASMA)

เป็นการปลูกผมด้วยวิธีการนำเกล็ดเลือดชนิดเข้มข้นของผู้รักษาฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการรักษา หรือบริเวณที่เจอปัญหาผมร่วง เพื่อให้เกล็ดเลือดเข้าไปกระตุ้นเซลล์รากผมให้เกิดใหม่ของเส้นผมให้แข็งแรง ใช้รักษากับผู้ที่มีอาการผลบางไม่มากนักมีความปลอดภัยต่อร่างกายของผู้เข้ารับการรักษา แต่มีราคาแพง จะมีผลลัพธ์ที่ดีต่อบางท่านเท่านั้น 

  • วิธีปลูกโดยไม่ใช้การผ่าตัดวิธีที่ 3 การปลูกผมด้วยการฉายแสงหรือเลเซอร์ปลูกผม LLLT (LOW LEVEL LASER THERAPY)

เป็นการปลูกผมแบบฉายแสงด้วยการใช้คลื่นความถี่ต่ำ เพื่อให้พลังงานดังกล่าวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ให้สารอาหารได้หล่อเลี้ยงหนังศีรษะมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผมเกิดการงอกเร็ว ผมร่วงน้อยลงนั้นเอง ซึ่งมีด้วยกัน 2 แบบคือแบบพกพาสามารถใช้ได้ด้วยตนเองในที่พักอาศัย หรือแบบเครื่องส่วนใหญ่จะเป็นการเข้ารักษาในคลินิกเนื่องจากเป็นเครื่องที่มีราคาแพง โดยวิธีการปลูกผมดังกล่าวจะมีความปลอดภัยต่อผู้เข้ารับการฉายแสง แต่มีค่าใช้จ่ายสูง บางสถานพยาบาลอาจจะต้องเข้าคอร์สรักษาแพงหลายครั้งกว่าจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้ บางท่านอาจจะใช้วิธีนี้ในการรักษาไม่ได้ผลได้เช่นเดียวกัน

สรุปการปลูกผมดีอย่างไร

เทคนิคที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีปลูกผมจึงอาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถช่วยแก้ความกังวลต่อปัญหาดังกล่าวได้ ทั้งยังช่วยให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติ มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเลือกสถานพยาบาลที่ดีก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้ส่งผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

By content