ช่วงนี้ๆใครก็พูดถึงการทากันแดด 2 ข้อนิ้ว ว่าแต่ เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราถึงต้องทาครีมกันแดด ต้องทาครีมกันแดดตอนไหน แล้วควรเลือกครีมกันแดดที่มีขายอยู่มากมายอย่างไร มีทั้งเนื้อครีมเนื้อน้ำนม กันน้ำ ไม่กันน้ำ เราควรจะใช้ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี แล้วต้องเลือกอย่างไรจึงจะได้ครีมกันแดดที่ดีที่สุด
ครีมกันแดดคือ ?
ครีมกันแดด คือ ผลิตภัณฑ์ที่เราเอาไว้ใช้ทาผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวตัว เพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสี UV ที่อยู่ในแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งผิวหนัง และทำให้ผิวหมองคล้ำ ครีมกันแดดจึงมีส่วนช่วยทั้งป้องกันมะเร็งผิวหนัง ช่วยไม่ให้ผิวหมองคล้ำ ป้องกันริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดด
เลือกครีมกันแดดยังไงดี ?
แล้วเราควรเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี? เพราะปัจจุบันก็มีครีมกันแดดมากมายหลายแบบวางขายจนเลือกไม่ถูก คำตอบก็คือ เราควรเลือกครีมกันแดดโดยดูจากลักษณะการใช้งานของเรา และคุณสมบัติของครีมกันแดด
เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิว
วิธีที่จะเลือกครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับเรานั้น จะต้องคำนึงถึงคุณสมบัติต่อไปนี้
- ลักษณะผิวของเรา เพื่อที่จะได้เลือกครีมกันแดดในเหมาะสมกับสภาพผิว มีทั้งครีมกันแดดสำหรับผิวมัน สำหรับผิวแพ้ง่าย, สำหรับผิวแห้ง หรือ สำหรับผิวเป็นสิวง่าย
- ประเภทของครีมกันแดดที่เราต้องการ chemical หรือ physical
- ลักษณะเนื้อของครีมกันแดดที่ต้องการเป็นแบบไหน มีทั้งเนื้อครีม โลชั่น เนื้อน้ำนม เจล หรือแบบสเปรย์ก็มีเช่นกัน
- ลักษณะการใช้งาน เช่น ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ในวันที่ออกกำลังกาย ใช้ขณะเล่นกีฬาทางน้ำ ใช้ทาใบหน้า หรือที่ตัว
เลือกประเภทของครีมกันแดด
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ก่อนอื่น เรามารู้จักประเภทของครีมกันแดดกันก่อน มีสองแบบคือ ครีมกันแดด chemical และครีมกันแดด physical ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดต่างกันออกไป
- ครีมกันแดด chemical คือครีมกันแดดที่ใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสี UV เพื่อปกป้องผิวของเรา ครีมกันแดดประเภทนี้มีข้อดีคือ จะดูเนียนไปกับผิว ไม่ทำให้ผิวขาวลอย ทว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื่องจากปฏิกิริยาเคมีในครีมกันแดด
- ครีมกันแดด physical จะช่วยสะท้อนรังสี UV ออกจากผิวของเรา ด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการสะท้อน ข้อดีของครีมกันแดดชนิดนี้คือ ไม่มีการเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง ทว่าครีมกันแดดประเภทนี้จะมีเนื้อที่เหนียว ข้น และอาจทำให้ผิวขาวดูลอย
เลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 หรือ PA+++
ค่า SPF ในครีมกันแดดย่อมาจาก Sun Protection Factor หมายถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีบี โดยจะคิดตามระยะเวลา โดยให้เอาตัวเลข คูณกับ 15 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ผิวของเราสามารถทนแสงแดดได้ ก็จะได้ระยะเวลาในการปกป้องผิวของครีมกันแดดนั้นๆ
PA ย่อมาจาก Protection Grade of UVA คือ ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเอ ส่วนเครื่องหมายบวกที่ต่อท้าย แสดงถึงจำนวนเท่าในการปกป้อง เราจึงควรเลือกครีมกันแดดที่มีทั้ง spf และ pa เพื่อปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB
เลือกตามลักษณะการใช้งาน
ครีมกันแดดที่ดีที่สุด คือครีมกันแดดที่เหมาะกับลักษณะการใช้งาน เลือกครีมกันแดดตามลักษณะของกิจกรรมที่คุณจะทำ เช่น หากทำกิจกรรมทางน้ำก็ควรใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำที่หลุดออกได้ยาก หรือหากใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไป ก็เลือกครีมกันแดดที่เนื้อบางเบาสบายเพื่อให้ล้างออกได้ง่ายในทุกๆวัน ไม่เกิดการอุดตัน
เลือกตามเนื้อของครีมกันแดด
เนื้อของครีมกันแดดมีหลายแบบ ซึ่งก็มีทั้งข้อดีแตกต่างกันไป
- เนื้อครีม เหมาะกับคนผิวแห้ง ช่วยเพิ่งความชุ่มชื่นให้ผิว
- เนื้อเจล จะบางเบาสบาย ชุ่มชื่นแต่ไม่หนักผิว เหมาะกับคนผิวมัน เป็นสิว
- แบบสเปรย์ ใช้ง่าย ประหยัดเวลา ไม่ต้องเกลี่ย แถมยังง่ายต่อการพกพาไปเติมระหว่างวันอีกด้วย
- แบบแท่ง สะดวกต่อการพกทา ใช้ง่าย สามารถหยิบใช้ได้ทุกที่เวลา รวมถึงมีเนื้อที่บางเบาสบาย ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง
หลังจากที่ได้คำตอบไปแล้วว่าเราควรเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี เพราะครีมกันแดดที่ดีที่สุดอาจจะไม่สามารถช่วยปกป้องผิวเลยหากเราใช้ผิดวิธี
การทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ควรใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป กระจายทั่วผิว สำหรับใบหน้า ควรทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว หรือ 2 ช้อนโต๊ะ เกลี่ยให้ครีมซึมซาบทั่วผิว เป็นเวลา 15-30 ก่อนออกแดด อย่าลืมทาบริเวณคอ หรือหูด้วย
12 อันดับ ครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี ช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย
สำหรับคนที่กำลังสับสนว่าจะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามี 12 อันดับครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากการถูกแสงแดดทำร้าย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปให้คุณได้เลือกใช้ตามความต้องการ
1. กันแดด Banana Boat Aqua Daily Moisture UV Protection sunscreen SPF50+ PA++++
ครีมกันแดด Banana Boat Aqua Daily Moisture UV Protection sunscreen SPF50+ PA++++ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ปกป้องได้ทั้งรังสีUVA และ UVB ทั้งยังกันน้ำกันเหงื่อ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว
ปริมาณ :50 ml.
ราคาโดยประมาณ : 390 บาท
2. กันแดด KA Protection Baby Face SPF42 PA+++
กันแดด KA Protection Baby Face SPF42 PA+++ ครีมกันแดดสีเนื้อ เป็นทั้งเบสและกันแดดในตัว ช่วยปรับผิวให้เนียน ขาวกระจ่างใสโดยไม่หนักผิว พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ส่วนผสมของเบสซิลิโคนที่ทำให้เกิดการอุดตัน
ปริมาณ : 30 g.
ราคาโดยประมาณ : 149 บาท
3. กันแดด Laneige Watery Sun Cream SPF50+ PA++++
Laneige Watery Sun Cream SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อน้ำ สัมผัสบางเบา เรียบเนียน ไม่เป็นคราบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง
ปริมาณ : 50ml
ราคาโดยประมาณ : 650 บาท
4. กันแดด Garnier Bright Complete Vitamin C Super UV SPF50+ PA+++
ครีมกันแดดผสานวิตามินซีตัวดังจากแบรนด์ Garnier ที่หลายคนน่าจะรู้จัก ด้วยคุณสมบัติของวิตามินสามารถช่วยลดเลือนและป้องกันจุดด่างดำ
ปริมาณ : 30ml
ราคาโดยประมาณ : 289 บาท
5. กันแดด Cute Press Ci-lab Sensitiv Ultra Mild Tone Up Sunscreen SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยน non-chemical เนื้อบางเบาไม่อุดอัน กันน้ำ และช่วยปรับผิวให้สว่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ปริมาณ : 30ml
ราคาโดยประมาณ : 590 บาท
6. กันแดด Nivea Sun Extra Protect Oil Control Sun Care SPF50+ PA++
ครีมกันแดดเนื้อเซรั่ม บางเบา ช่วยลดความมันและล็อกเมคอัพนาน 8 ชั่วโมง
ปริมาณ : 30ml
ราคาโดยประมาณ : 289 บาท
7. กันแดด Skin1004 Madagascar Centella Air-fit Sunscreen SPF50 PA++++
ครีมกันแดดเนื้อน้ำนม เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ พร้อมปรับผิวกระจ่างใสด้วย MadeWhite ™
ปริมาณ : 50ml
ราคาโดยประมาณ : 790 บาท
8. กันแดด Biore Aqua Rich SPF50+ PA+++
ครีมกันแดดสูตรน้ำ มี Micro Defense ปกป้องผิวลึกถึงชั้นคอลลาเจน กันน้ำ กันเหงื่อ บำรุงผิวชุ่มชื้น สามารถทาทับเมคอัพได้
ปริมาณ : 50ml
ราคาโดยประมาณ : 420 บาท
9. กันแดด L’Oreal Paris UV Defender SPF50+ PA+++
ครีมกันแดดเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ปกป้องผิวจากริ้วรอยที่เกิดจากแสงแดด
ปริมาณ : 50ml
ราคาโดยประมาณ : 599 บาท
10. กันแดด Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดเนื้อน้ำนม สัมผัสบางเบา เนียนไปกับผิว ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนพร้อมผสมสารบำรุง ด้วยเนื้อสัมผัสมี่บางเบาทำให้ถูกใจใครหลายคน
ปริมาณ : 20ml
ราคาโดยประมาณ : 359 บาท
11. กันแดด Nivea Sun Triple Protect Extra Radiance & Smooth SPF50+ PA+++
ครีมกันแดดเนื้อเซรั่ม ซึมไว ปกป้องผิวจากทั้งแสงสีฟ้า ยูวีเอและยูวีบี ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
ปริมาณ : 30ml
ราคาโดยประมาณ : 289 บาท
12. กันแดด SpectraBan Anti UVA-UVB with SPF50+ PA+++
ครีมกันแดดใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ไม่มีน้ำหอม กันน้ำ กันเหงื่อ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ปริมาณ : 20ml
ราคาโดยประมาณ : 330 บาท
ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับครีมกันแดด
หลังจากที่เราเลือกครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับเราได้แล้ว หลายๆคนอาจจะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับครีมกันแดด เช่น ควรทาครีมกันแดดตอนไหน ? แล้วครีมกันแดดนั้นสามารถป้องกันรังสี UV ได้จริงหรือไม่ วันนี้เราจะมาชี้แจงข้อสงสัยกัน
ควรทาครีมกันแดดตอนไหนถึงจะดีที่สุด ?
ช่วงเวลาที่ควรทาครีมกันแดดคือ 15-30 นาทีก่อนออกแดด และควรทาซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมง
ครีมกันแดดทาตัวใช้แทนครีมกันแดดทาหน้าได้ไหม ?
ไม่ควรนำครีมกันแดดสำหรับทาตัวมาทาหน้า เนื่องจากครีมกันแดดตัวถูกออกแบบมาสำหรับผิวตัวที่มีผิวหนังหนากว่า และผิวหน้านั้นบอบบาง อาจจะเกิดอาการระคายเคืองเนื่องจากส่วนผสมของครีมกันแดดได้
ครีมกันแดดปกป้องผิวจากรังสี UV ได้จริงหรือ ?
ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวจากรังสี UV ได้จริง เพราะมีทั้ง spf และ pa ที่ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB
สรุป
หลายๆคนคงจะได้คำตอบแล้วว่าจะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี ก่อนออกแดด 15 – 30 นาที ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเพราะจะช่วยป้องกันผิวจากริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า กระ รวมถึงโรคร้ายอย่างมะเร็งผิวหนังอีกด้วย