เพลงร็อค (Premium)

เพลงร็อค เป็นเพลงที่มีจังหวะอันทรงพลัง มาพร้อมกับเนื้อเพลงที่สื่ออารมณ์ได้อย่างโดดเด่นอีกประเภทหนึ่ง ถือว่าเพลงร๊อกนั้นมีอิทธิพลอย่างมากกับประวัติศาสตร์ดนตรี ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบเพลงร็อค หรือผู้ฟังทั่วไป เพียงคุณเปิดใจรับฟัง เพลงเหล่านี้ก็อาจจะเข้ามาอยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของคุณได้ไม่ยาก บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเพลงร็อคกันมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับเพลงที่ยากจะลืมเลือนเหล่านี้



ทำไมเพลงร๊อกถึงเป็นที่นิยม ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ส่งผลต่อเพลงร็อคไทยอย่างไรบ้าง

เพลงร็อคกลายเป็นแนวเพลงที่เกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีหลากหลายแนว เพลงร๊อกมีรากฐานมาจากแนวเพลงบลูส์, รึทึมแอนด์บลูส์(R&B) และ กอสเปล ถือเป็นเพลงที่มีการแยกตัวจากแนวเพลงดั้งเดิมอย่างชัดเจน ช่วยจุดประกายให้เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เราจะมาทำความรู้จักต้นกำเนิดอันน่าทึ่งของเพลงร๊อก ที่ผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลาย และมีการพัฒนาตลอดหลายทศวรรษ

ต้นกำเนิดของเพลงร็อค

  1. อิทธิพลจากเพลงบลูส์ จะโดดเด่นด้วยเสียงร้องที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ งานกีตาร์ที่แสดงออกถึงอารมณ์ มาพร้อมกับบรรยายกาศของความยากลำบาก
  1. อิทธิพลจากเพลงอาร์แอนด์บี ด้วยการรับอิทธิพลจากอาร์แอนด์บี ทำให้เพลงร็อคผสมผสานจังหวะที่มีพลัง เน้นหนักไปที่เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ซึ่งปูทางไปสู่เสียงใหม่
  1. อิทธิพลจากเพลงกอสเปล ความเข้มข้นทางอารมณ์ของเพลงกอสเปลจะมีความสำคัญกับเพลงร็อคอย่างมาก ทำให้เพลงดูมีจิตวิญญาณ

สำหรับประเภทของเพลงร็อคนั้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท ได้แก่

  1. เพลงร็อคคลาสสิค เป็นเพลงที่มีความโดดเด่น มีเสน่ห์เหนือกาลเวลา เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษระหว่าง 1960-1970 โดยมีวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Led Zeppelin, The Rolling Stones และ The Beatles
  1. เพลงฮาร์ดร็อค ฮาร์ดร็อคเกิดจากเสียงที่หนักแน่น กีตาร์ที่ดุดัน พร้อมกับเสียงร้องที่ทรงพลัง ฮาร์ดร็อคถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 โดยมีวงดนตรีอย่าง Deep Purple กับ Black Sabbath เป็นเริ่มต้น
  1. พังก์ร็อค มีรูปแบบที่รุนแรง หยาบกระด้าง ถือกำเนิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1970 โดยมีวงดนตรีอย่าง The Ramones กับ The Sex Pistols สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการเพลง
  1. กรันจ์ กำเนิดในทศวรรษ 1990 กรันจ์ผสมผสานพังก์เข้ากับอัลเทอร์เนทีฟร็อค โดยมีวงดนตรีอย่าง Nirvana กับ Soundgarden สร้างเสียงเพลงที่โดดเด่น
  1. อัลเทอร์เนทีฟร็อค มีหมวดหมู่ที่หลากหลาย อัลเทอร์เนทีฟร็อคครอบคลุมสไตล์ ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษ 1990 โดยมีวงดนตรีเช่น Radiohead, Pearl Jam กับ R.E.M.
  1. โปรเกรสซีฟร็อค โปรเกรสซีฟร็อคเป็นที่รู้จักจากการเรียบเรียงที่ซับซ้อน โปรเกรสซีฟร็อคถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 โดยมีวงดนตรีอย่าง Pink Floyd กับ Yes ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของร็อคแบบดั้งเดิม
  1. อินดี้ร็อค อินดี้ร็อคอิสระ เป็นแนวผสมผสานได้รับความนิยมในช่วงระหว่างทศวรรษ 1980-1990 โดยมีวงดนตรีอย่าง The Smiths กับ Pixies เป็นผู้นำเริ่มต้น
  1. เมทัล ประเภทย่อยที่มีเข้มข้น ทั้งยังหนักหน่วง เมทัลมีหลายสไตล์ เช่น เฮฟวีเมทัล แทรชเมทัล รวมถึงเมทัลคอร์ วงดนตรีอย่าง Metallica กับ Iron Maiden ถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก
  1. ป๊อปร็อค การผสมผสานระหว่างเพลงป๊อป เข้ากับเพลงร็อคได้อย่างลงตัว ป๊อปร็อคมีความโดดเด่นด้วยท่วงทำนองที่ติดหู มาพร้อมกับเนื้อเพลงที่เข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างศิลปินได้แก่ The Police กับ Fleetwood Mac ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก
  1. Rock and Roll Revival เป็นการฟื้นคืนชีพขององค์ประกอบเพลงร็อคแอนด์โรลแบบดั้งเดิม แนวเพลงนี้นำพลัง รวมถึงจิตวิญญาณของร็อคยุคแรกกลับมาอีกครั้ง โดยมีศิลปินอย่าง Elvis Presley กับ Chuck Berry เป็นแรงบันดาลใจ

ความนิยมของเพลงร็อคตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนั้น มีด้วยกันจากหลากหลายปัจจัย ได้แก่

  1. ความหลากหลาย เพลงร็อคครอบคลุมแนวเพลงย่อยที่หลากหลาย ตั้งแต่คลาสสิกร็อคไปจนถึงอัลเทอร์เนทีฟ ทำให้สามารถดึงดูดผู้ฟังได้หลากหลาย
  1. เนื้อเพลงน่าดึงดูด เนื้อเพลงร็อคมักจะมีความลึกซึ้ง มีความหมาย ซึ่งสะท้อนไปถึงผู้ฟังได้ทุกระดับชั้น
  1. เพลงที่ทรงพลัง การแสดงที่เต็มไปด้วยพลัง ยิ่งในคอนเสิร์ตร็อคยิ่งทรงพลังมากขึ้นตามไปด้วย สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ
  1. ผลกระทบด้านวัฒนธรรม ร็อคมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ทำให้เป็นแนวเพลงที่ทรงพลัง ทั้งยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน

สำหรับเพลงร็อคไทยนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเพลงร็อคแบบดั้งเดิมเข้ากับเพลงร็อคสมัยใหม่ เป็นแนวเพลงที่ได้รับการพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยศิลปินได้ผสมผสานอิทธิพลทางวัฒนธรรมเข้ากับดนตรีของพวกเขา เพลงร็อคไทยยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณนักดนตรีผู้หลงใหลในการอนุรักษ์ ทั้งยังพัฒนาแนวเพลงสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป อย่างต่อเนื่อง


10 อันดับ เพลงร็อคระดับสากล ที่ทุกคนรู้จัก 

เพลงร๊อก (Premium)

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มฟังเพลงร็อค เรารวมเพลงร็อกชั้นนำทั้ง 10 อันดับเพลงร็อกเพราะๆ ที่ยังคงเป็นที่รู้จัก แม้ว่าเวลายังผ่านมานาน แต่ก็ไม่อาจลบเลือนไปจากจิตใจของผู้ฟัง ซึ่งเราได้รวบรวมความเป็นมาของเพลงรอค ตั้งแต่แรงบันดาลใจของผู้แต่ง เพื่อแสดงให้เห็นเบื้องหลังของแต่ละเพลง ที่ทำให้รวมเพลง rock เหล่านี้ คงความเป็นเพลงคลาสสิกที่ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา

1.”Stairway to Heaven” by Led Zeppelin

ผู้แต่ง: Jimmy Page กับ Robert Plant

ความเป็นมา: เพลง rock มันๆ นี้เริ่มแต่งในปี 1970 ใช้เวลาเขียนและบันทึกเสียงนานหลายปี เนื้อหาเพลงตีความได้หลายแง่มุม บางคนตีความว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับการเดินทางทางจิตวิญญาณ บางคนตีความว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่สูญเสียไป

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจหลักของเพลงนี้มาจากนิทานเรื่อง “The Lord of the Rings” ของ J.R.R. Tolkien

2.”Bohemian Rhapsody” by Queen

ผู้แต่ง: Freddie Mercury

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1975 เป็นเพลงที่มีโครงสร้างซับซ้อน ผสมผสานหลายแนวเพลง เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ฆ่าคนตาย ที่ต้องเผชิญกับผลกรรม

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากเรื่องราวจริงของ Reginald Kenneth Dwight ฆาตกรที่ฆ่าแฟนสาวของเขา

3.”Hotel California” by Eagles

ผู้แต่ง: Don Henley กับ Glenn Frey

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1976 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความมืดมนของสังคมอเมริกัน เสียดสีวัตถุนิยม

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของวง Eagles ที่ได้เดินทางไปพักที่โรงแรมในแคลิฟอร์เนียแห่งหนึ่ง

4.”Imagine” by John Lennon

ผู้แต่ง: John Lennon

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1971 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับโลกที่ปราศจากสงคราม ความรุนแรง รวมถึงความแบ่งแยก

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากความฝันของ John Lennon ที่อยากเห็นโลกที่สงบสุข

5.”Sweet Child o’ Mine” by Guns N’ Roses

ผู้แต่ง: Slash กับ Izzy Stradlin

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1987 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากความสัมพันธ์ของ Axl Rose นักร้องนำวง กับแฟนสาวของเขา

6.”Smells Like Teen Spirit” by Nirvana

ผู้แต่ง: Kurt Cobain

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1991 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความเบื่อหน่ายของวัยรุ่น

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Kurt Cobain กับสังคมวัยรุ่น

7.”Livin’ on a Prayer” by Bon Jovi

ผู้แต่ง: Jon Bon Jovi, Richie Sambora กับ Desmond Child

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1986 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับคู่รักที่ต้องต่อสู้กับปัญหาต่างๆ

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากเรื่องราวของคนทั่วไปที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในชีวิต

8.”Comfortably Numb” by Pink Floyd

ผู้แต่ง: Roger Waters กับ David Gilmour

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1979 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนไร้ความรู้สึก ไร้ตัวตน

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Roger Waters กับความกดดันในวงการเพลง

9.”Paint It Black” by The Rolling Stones

ผู้แต่ง: Mick Jagger กับ Keith Richards

ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1966 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่สูญเสียคนรักไป

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Mick Jagger ที่สูญเสียแฟนสาวของเขา

10.”Don’t Stop Believin'” by Journey

ผู้แต่ง: Jonathan Cain, Steve Perry กับ Neal Schon

ความเป็นมา: เพลงร็อกมันนี้แต่งขึ้นในปี 1981 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการไม่ยอมแพ้ต่อความฝัน

แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของวง


เพลงรอคยังเป็นที่นิยมไหมในปัจจุบัน

เพลงล็อกนั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัวของเพลงร็อค สำหรับคำถามที่ว่าเพลงร็อคยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบันหรือไม่นั้น ตอบได้เลยว่ายังคงได้รับความนิยมอยู่จำนวนมาก ด้วยแนวเพลงนี้มีการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา การผสมผสานแนวเพลงถือเป็นจุดเด่นของเพลงแนวนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้การฟังเพลงร็อคต่อเนื่องได้อย่างไม่น่าเบื่อ

สรุป

เพลงร็อคไทย

เพลงร๊อกเป็นเพลงที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากการนำแนวเพลงต่าง ๆ มาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงบลูส์ เพลงอาร์แอนด์บี หรือจะเป็นเพลงกอสเปล ซึ่งด้วยการที่นำแนวเพลงต่าง ๆ มารวมกัน จึงทำให้เกิดเพลงร็อคต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพิ่มความหลากหลายให้เพลงแนวนี้เป็นอย่างมาก

By content