เพลงร็อค เป็นเพลงที่มีจังหวะอันทรงพลัง มาพร้อมกับเนื้อเพลงที่สื่ออารมณ์ได้อย่างโดดเด่นอีกประเภทหนึ่ง ถือว่าเพลงร๊อกนั้นมีอิทธิพลอย่างมากกับประวัติศาสตร์ดนตรี ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบเพลงร็อค หรือผู้ฟังทั่วไป เพียงคุณเปิดใจรับฟัง เพลงเหล่านี้ก็อาจจะเข้ามาอยู่ในเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของคุณได้ไม่ยาก บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับเพลงร็อคกันมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับเพลงที่ยากจะลืมเลือนเหล่านี้
ทำไมเพลงร๊อกถึงเป็นที่นิยม ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน ส่งผลต่อเพลงร็อคไทยอย่างไรบ้าง
เพลงร็อคกลายเป็นแนวเพลงที่เกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีหลากหลายแนว เพลงร๊อกมีรากฐานมาจากแนวเพลงบลูส์, รึทึมแอนด์บลูส์(R&B) และ กอสเปล ถือเป็นเพลงที่มีการแยกตัวจากแนวเพลงดั้งเดิมอย่างชัดเจน ช่วยจุดประกายให้เกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เราจะมาทำความรู้จักต้นกำเนิดอันน่าทึ่งของเพลงร๊อก ที่ผสมผสานแนวเพลงที่หลากหลาย และมีการพัฒนาตลอดหลายทศวรรษ
ต้นกำเนิดของเพลงร็อค
- อิทธิพลจากเพลงบลูส์ จะโดดเด่นด้วยเสียงร้องที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ งานกีตาร์ที่แสดงออกถึงอารมณ์ มาพร้อมกับบรรยายกาศของความยากลำบาก
- อิทธิพลจากเพลงอาร์แอนด์บี ด้วยการรับอิทธิพลจากอาร์แอนด์บี ทำให้เพลงร็อคผสมผสานจังหวะที่มีพลัง เน้นหนักไปที่เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ซึ่งปูทางไปสู่เสียงใหม่
- อิทธิพลจากเพลงกอสเปล ความเข้มข้นทางอารมณ์ของเพลงกอสเปลจะมีความสำคัญกับเพลงร็อคอย่างมาก ทำให้เพลงดูมีจิตวิญญาณ
สำหรับประเภทของเพลงร็อคนั้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท ได้แก่
- เพลงร็อคคลาสสิค เป็นเพลงที่มีความโดดเด่น มีเสน่ห์เหนือกาลเวลา เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษระหว่าง 1960-1970 โดยมีวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Led Zeppelin, The Rolling Stones และ The Beatles
- เพลงฮาร์ดร็อค ฮาร์ดร็อคเกิดจากเสียงที่หนักแน่น กีตาร์ที่ดุดัน พร้อมกับเสียงร้องที่ทรงพลัง ฮาร์ดร็อคถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 โดยมีวงดนตรีอย่าง Deep Purple กับ Black Sabbath เป็นเริ่มต้น
- พังก์ร็อค มีรูปแบบที่รุนแรง หยาบกระด้าง ถือกำเนิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1970 โดยมีวงดนตรีอย่าง The Ramones กับ The Sex Pistols สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการเพลง
- กรันจ์ กำเนิดในทศวรรษ 1990 กรันจ์ผสมผสานพังก์เข้ากับอัลเทอร์เนทีฟร็อค โดยมีวงดนตรีอย่าง Nirvana กับ Soundgarden สร้างเสียงเพลงที่โดดเด่น
- อัลเทอร์เนทีฟร็อค มีหมวดหมู่ที่หลากหลาย อัลเทอร์เนทีฟร็อคครอบคลุมสไตล์ ได้รับความนิยมในช่วงทศวรรษ 1990 โดยมีวงดนตรีเช่น Radiohead, Pearl Jam กับ R.E.M.
- โปรเกรสซีฟร็อค โปรเกรสซีฟร็อคเป็นที่รู้จักจากการเรียบเรียงที่ซับซ้อน โปรเกรสซีฟร็อคถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 โดยมีวงดนตรีอย่าง Pink Floyd กับ Yes ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของร็อคแบบดั้งเดิม
- อินดี้ร็อค อินดี้ร็อคอิสระ เป็นแนวผสมผสานได้รับความนิยมในช่วงระหว่างทศวรรษ 1980-1990 โดยมีวงดนตรีอย่าง The Smiths กับ Pixies เป็นผู้นำเริ่มต้น
- เมทัล ประเภทย่อยที่มีเข้มข้น ทั้งยังหนักหน่วง เมทัลมีหลายสไตล์ เช่น เฮฟวีเมทัล แทรชเมทัล รวมถึงเมทัลคอร์ วงดนตรีอย่าง Metallica กับ Iron Maiden ถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก
- ป๊อปร็อค การผสมผสานระหว่างเพลงป๊อป เข้ากับเพลงร็อคได้อย่างลงตัว ป๊อปร็อคมีความโดดเด่นด้วยท่วงทำนองที่ติดหู มาพร้อมกับเนื้อเพลงที่เข้าถึงได้ง่าย ตัวอย่างศิลปินได้แก่ The Police กับ Fleetwood Mac ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก
- Rock and Roll Revival เป็นการฟื้นคืนชีพขององค์ประกอบเพลงร็อคแอนด์โรลแบบดั้งเดิม แนวเพลงนี้นำพลัง รวมถึงจิตวิญญาณของร็อคยุคแรกกลับมาอีกครั้ง โดยมีศิลปินอย่าง Elvis Presley กับ Chuck Berry เป็นแรงบันดาลใจ
ความนิยมของเพลงร็อคตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันนั้น มีด้วยกันจากหลากหลายปัจจัย ได้แก่
- ความหลากหลาย เพลงร็อคครอบคลุมแนวเพลงย่อยที่หลากหลาย ตั้งแต่คลาสสิกร็อคไปจนถึงอัลเทอร์เนทีฟ ทำให้สามารถดึงดูดผู้ฟังได้หลากหลาย
- เนื้อเพลงน่าดึงดูด เนื้อเพลงร็อคมักจะมีความลึกซึ้ง มีความหมาย ซึ่งสะท้อนไปถึงผู้ฟังได้ทุกระดับชั้น
- เพลงที่ทรงพลัง การแสดงที่เต็มไปด้วยพลัง ยิ่งในคอนเสิร์ตร็อคยิ่งทรงพลังมากขึ้นตามไปด้วย สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ
- ผลกระทบด้านวัฒนธรรม ร็อคมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ทำให้เป็นแนวเพลงที่ทรงพลัง ทั้งยังมีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน
สำหรับเพลงร็อคไทยนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเพลงร็อคแบบดั้งเดิมเข้ากับเพลงร็อคสมัยใหม่ เป็นแนวเพลงที่ได้รับการพัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยศิลปินได้ผสมผสานอิทธิพลทางวัฒนธรรมเข้ากับดนตรีของพวกเขา เพลงร็อคไทยยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณนักดนตรีผู้หลงใหลในการอนุรักษ์ ทั้งยังพัฒนาแนวเพลงสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป อย่างต่อเนื่อง
10 อันดับ เพลงร็อคระดับสากล ที่ทุกคนรู้จัก
สำหรับผู้ที่อยากเริ่มฟังเพลงร็อค เรารวมเพลงร็อกชั้นนำทั้ง 10 อันดับเพลงร็อกเพราะๆ ที่ยังคงเป็นที่รู้จัก แม้ว่าเวลายังผ่านมานาน แต่ก็ไม่อาจลบเลือนไปจากจิตใจของผู้ฟัง ซึ่งเราได้รวบรวมความเป็นมาของเพลงรอค ตั้งแต่แรงบันดาลใจของผู้แต่ง เพื่อแสดงให้เห็นเบื้องหลังของแต่ละเพลง ที่ทำให้รวมเพลง rock เหล่านี้ คงความเป็นเพลงคลาสสิกที่ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา
1.”Stairway to Heaven” by Led Zeppelin
ผู้แต่ง: Jimmy Page กับ Robert Plant
ความเป็นมา: เพลง rock มันๆ นี้เริ่มแต่งในปี 1970 ใช้เวลาเขียนและบันทึกเสียงนานหลายปี เนื้อหาเพลงตีความได้หลายแง่มุม บางคนตีความว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับการเดินทางทางจิตวิญญาณ บางคนตีความว่าเป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่สูญเสียไป
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจหลักของเพลงนี้มาจากนิทานเรื่อง “The Lord of the Rings” ของ J.R.R. Tolkien
2.”Bohemian Rhapsody” by Queen
ผู้แต่ง: Freddie Mercury
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1975 เป็นเพลงที่มีโครงสร้างซับซ้อน ผสมผสานหลายแนวเพลง เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ฆ่าคนตาย ที่ต้องเผชิญกับผลกรรม
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากเรื่องราวจริงของ Reginald Kenneth Dwight ฆาตกรที่ฆ่าแฟนสาวของเขา
3.”Hotel California” by Eagles
ผู้แต่ง: Don Henley กับ Glenn Frey
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1976 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความมืดมนของสังคมอเมริกัน เสียดสีวัตถุนิยม
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของวง Eagles ที่ได้เดินทางไปพักที่โรงแรมในแคลิฟอร์เนียแห่งหนึ่ง
4.”Imagine” by John Lennon
ผู้แต่ง: John Lennon
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1971 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับโลกที่ปราศจากสงคราม ความรุนแรง รวมถึงความแบ่งแยก
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากความฝันของ John Lennon ที่อยากเห็นโลกที่สงบสุข
5.”Sweet Child o’ Mine” by Guns N’ Roses
ผู้แต่ง: Slash กับ Izzy Stradlin
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1987 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรค
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากความสัมพันธ์ของ Axl Rose นักร้องนำวง กับแฟนสาวของเขา
6.”Smells Like Teen Spirit” by Nirvana
ผู้แต่ง: Kurt Cobain
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1991 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความเบื่อหน่ายของวัยรุ่น
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Kurt Cobain กับสังคมวัยรุ่น
7.”Livin’ on a Prayer” by Bon Jovi
ผู้แต่ง: Jon Bon Jovi, Richie Sambora กับ Desmond Child
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1986 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับคู่รักที่ต้องต่อสู้กับปัญหาต่างๆ
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากเรื่องราวของคนทั่วไปที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในชีวิต
8.”Comfortably Numb” by Pink Floyd
ผู้แต่ง: Roger Waters กับ David Gilmour
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1979 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนไร้ความรู้สึก ไร้ตัวตน
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Roger Waters กับความกดดันในวงการเพลง
9.”Paint It Black” by The Rolling Stones
ผู้แต่ง: Mick Jagger กับ Keith Richards
ความเป็นมา: เพลงนี้แต่งขึ้นในปี 1966 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับชายหนุ่มที่สูญเสียคนรักไป
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของ Mick Jagger ที่สูญเสียแฟนสาวของเขา
10.”Don’t Stop Believin'” by Journey
ผู้แต่ง: Jonathan Cain, Steve Perry กับ Neal Schon
ความเป็นมา: เพลงร็อกมันนี้แต่งขึ้นในปี 1981 เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการไม่ยอมแพ้ต่อความฝัน
แรงบันดาลใจ: แรงบันดาลใจของเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของวง
เพลงรอคยังเป็นที่นิยมไหมในปัจจุบัน
เพลงล็อกนั้นมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัวของเพลงร็อค สำหรับคำถามที่ว่าเพลงร็อคยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบันหรือไม่นั้น ตอบได้เลยว่ายังคงได้รับความนิยมอยู่จำนวนมาก ด้วยแนวเพลงนี้มีการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา การผสมผสานแนวเพลงถือเป็นจุดเด่นของเพลงแนวนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้การฟังเพลงร็อคต่อเนื่องได้อย่างไม่น่าเบื่อ
สรุป
เพลงร๊อกเป็นเพลงที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากการนำแนวเพลงต่าง ๆ มาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงบลูส์ เพลงอาร์แอนด์บี หรือจะเป็นเพลงกอสเปล ซึ่งด้วยการที่นำแนวเพลงต่าง ๆ มารวมกัน จึงทำให้เกิดเพลงร็อคต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เพิ่มความหลากหลายให้เพลงแนวนี้เป็นอย่างมาก