ในปัจจุบันนี้เมื่อพูดถึงคำว่า ‘Hifu’ หลายคนคงรู้จัก ไฮฟู่เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม Hifu เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ต้องการยกกระชับใบหน้า เหนียง คอ ต้นแขน hifu ขา และ hifu ใต้ ตา เป็นต้น
บทความนี้ จะเจาะลึกสำรวจ Hifu ในทุกมิติ รวมถึงคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับไฮฟู่ ตั้งแต่ hifu คืออะไร ทำงานอย่างไร hifu เหมาะกับใคร ใช้เวลานานแค่ไหน hifu ดีไหม ต้องทำกี่ครั้ง ทำแล้วอันตรายไหม hifu ราคาเท่าไหร่ รวมถึงทำไม Hifu ถึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการดูแลผิวหน้าและสุขภาพทั่วไปของเรา ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
1. Hifu หมายถึงอะไร
HIFU ย่อมาจาก High Intensity Focused Ultrasound คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง เพื่อยกกระชับผิวหน้าและร่างกายโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยหลักการทำงานของ HIFU คือ การส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปยังชั้นผิวหนังระดับความลึกตามต้องการ ทำให้เกิดความร้อนสูงประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ความร้อนนี้จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวหน้าและส่วนต่างของร่างกายมีความยืดหยุ่น กระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้น และกรอบหน้าชัดเจนขึ้น
2. Hifu ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) มีความหลากหลายในการให้บริการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้านความงามได้มากมาย ปัญหาที่ Hifu สามารถช่วยแก้ไขได้ ในหัวข้อนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้ดังนี้
- ส่วนบนใบหน้า ไฮฟู่ ช่วยอะไรได้บ้าง
- hifu ยกกระชับหน้า: HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินภายในผิวหน้าใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูมีความยืดหยุ่น กระชับมากขึ้น แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย
- ลดเลือนริ้วรอย ตีนกา ร่องแก้ม: ความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ริ้วรอย ร่องลึกดูตื้นขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยตื้น ร่องแก้ม รอยยิ้ม
- กระชับกรอบหน้า: HIFU ช่วยให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่น กระชับขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น hifu กรอบหน้า เหมาะกับผู้มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ลดเหนียง คางสองชั้น: HIFU ช่วยสลายไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้เหนียงและคางสองชั้นดูเล็กลง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเหนียง คางสองชั้น และ hifu คอ
- ยกหนังตาตก: HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้หนังตาที่ตกดูยกกระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก
- รูขุมขนเล็กลง: ความร้อนจากคลื่นอัลตราซาวด์จะช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง เหมาะกับผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง
- ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น: HIFU ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- รักษาสิวและหลุมสิว: HIFU สามารถช่วยกระชับผิวและลดการอักเสบที่เกิดจากสิว ทำให้ลดการเป็นหลุมสิวและรอยแผล
- ส่วนบนร่างกาย ไฮฟู่ ช่วยอะไรได้บ้าง
- ยกกระชับผิวบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก: ทำ HIFU ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพกมีความยืดหยุ่น กระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ลดไขมันส่วนเกิน: ทำ HIFU สามารถช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้บางส่วน เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินไม่มาก
- ผิวแตกลาย: HIFU ช่วยให้ผิวแตกลายดูเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแตกลาย
นอกจากนี้ Hifu ใช้ในการรักษามะเร็งบางชนิด โดยการโฟกัสคลื่นอัลตร้าซาวด์ลงไปที่ก้อนเนื้อและทำลายเซลล์มะเร็งโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด
ทำ Hifu ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับความต้องการ สภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล การปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เหมาะสมและปลอดภัย
3. ผลลัพธ์การทำ Hifu อยู่ได้นานแค่ไหน / ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
ผลลัพธ์ของการทำ HIFU อยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- บริเวณที่ทำ: ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่าในบริเวณที่มีไขมันน้อย เช่น ทำ HIFU บริเวณใบหน้า อาจจะต้องทำมากกว่าการทำ HIFU บริเวณลำคอ
- ปัญหาผิว: คนมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก อาจจะต้องทำ HIFU มากกว่าคนมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยน้อย
- พลังงานที่ใช้: การใช้พลังงานสูงจะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
- อายุ: คนอายุน้อย ผิวแข็งแรง อาจจะต้องทำ HIFU น้อยกว่าคนอายุมาก ผิวไม่แข็งแรง ผลลัพธ์ทำ Hifu จะอยู่ได้นานกว่าในคนอายุน้อยและมีสุขภาพผิวดี
- การดูแลตัวเองหลังทำ: การทาครีมกันแดด ทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
การทำ HIFU เพียงครั้งเดียวสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 20% ผิวจะค่อย ๆ กระชับขึ้นเรื่อย ๆ รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้นใน 1-2 เดือน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดหลังจาก 2-3 เดือน จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ แนะนำให้ทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน หรือทำซ้ำปีละ 1-2 ครั้ง
4. ทำ Hifu เหมาะกับใครบ้าง
Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เหมาะสำหรับกลุ่มผู้คนที่มีความต้องการและประสงค์ในการปรับรูปหน้าหรือดูแลรักษาผิวหน้าและร่างกาย แต่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือมีระยะเวลาฟื้นฟูนานมาก Hifu เหมาะกับบุคคลทุกเพศทุกวัย ดังต่อไปนี้
- ผู้มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไฮฟู่สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าหย่อนคล้อยได้ทุกบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณหย่อนคล้อยง่าย เช่น แก้ม คาง เหนียง ใต้ตา และหน้าผาก ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น รูขุมขนเล็กลง ใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้มีริ้วรอย ไฮฟู่สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้น ๆ เช่น รอยตีนกา ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น ผิวหน้าดูอิ่มฟู เต่งตึง โดยไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์
- ผู้มีกรอบหน้าไม่ชัด ไฮฟู่สามารถช่วยให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณกรามและเหนียง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียว V-shape hifu กรอบหน้าเหมาะสำหรับผู้มีใบหน้ากลม หรือต้องการใบหน้าดูมีมิติ
- ผู้ต้องการดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ Hifu สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส ชะลอวัย ช่วยให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพดี
- ผู้ต้องการรักษาสิวและหลุมสิว สำหรับผู้มีปัญหาสิวและต้องการลดการอักเสบและกระชับผิว
- ผู้ต้องการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด Hifu เป็นวิธีการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้น ยกกระชับหน้า hifu เหมาะสำหรับผู้ต้องการหลีกเลี่ยงผ่าตัด หรือต้องการวิธีสะดวก รวดเร็ว
5. hifu ต่างจาก ulthera หรือไม่?
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง hifuต่างจากUlthera ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- เครื่องมือที่ใช้ HIFU: มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่ละรุ่นมีความสามารถและราคาแตกต่างกัน ส่วน Ulthera: เป็นเครื่องมือเฉพาะที่ผลิตโดยบริษัท Merz Aesthetics
- พลังงานที่ใช้ HIFU: พลังงานจะกระจายเป็นแนวเส้นตรง ส่วน Ulthera: พลังงานจะกระจายเป็นจุด
- ระยะเวลาในการทำ HIFU: ใช้เวลาทำประมาณ 30-60 นาที ส่วน Ulthera: ใช้เวลาทำประมาณ 60-90 นาที
- ผลลัพธ์ที่ได้ HIFU: ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ส่วน Ulthera: ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
- ราคาเริ่มต้น HIFU: ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 บาท ส่วน Ulthera: ราคาเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาท
สรุป HIFU และ Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้ามีประสิทธิภาพ แต่ HIFU มีราคาถูกกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า เจ็บน้อยกว่า HIFU มีหลายหัว เหมาะกับการรักษาหลายชั้นผิว แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า Ulthera
6. Ultraformer III กับ HIFU ต่างกันอย่างไร
Ultraformer III และ HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูง แต่มีข้อแตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- เทคโนโลยี Ultraformer III ใช้เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ปล่อยพลังงานแม่นยำ ลงลึกถึงชั้น SMAS ส่วน HIFU ปล่อยพลังงานแบบกระจาย
- ประสิทธิภาพ Ultraformer III เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ส่วน HIFU เห็นผลลัพธ์น้อยกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า
- ความเจ็บ Ultraformer III เจ็บน้อยกว่า ส่วน HIFU จะรู้สึกเจ็บมากกว่า
- ระยะเวลาในการทำ Ultraformer III ใช้เวลาทำประมาณ 30-60 นาที ส่วน HIFU ใช้เวลาทำประมาณ 30-60 นาที
- ราคา Ultraformer III ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาท ส่วน HIFU ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000 บาท
- ผลข้างเคียง Ultraformer III ผลข้างเคียงน้อย มีโอกาสเกิดรอยแดงหรือบวมช้ำ ส่วน HIFU ผลข้างเคียงน้อย มีโอกาสเกิดรอยแดงหรือบวมช้ำ
สรุป Ultraformer III และ HIFU เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพ แต่ Ultraformer III มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า ประสิทธิภาพดีกว่า เจ็บน้อยกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า แต่ราคาแพงกว่า HIFU
7. อยากลดไขมันเหนียง ทำ HIFU ดีหรือไม่
ทำ HIFU เป็นตัวเลือกหนึ่งในการลดไขมันเหนียง hifu เหนียงไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงจะส่งผ่านชั้นผิวหนัง ไปยังชั้นไขมันใต้คาง ทำให้เซลล์ไขมันเกิดการแตกสลายและถูกขับออกจากร่างกาย มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย ผลลัพธ์ที่ได้คือเหนียงดูเล็กลง กรอบหน้าชัดเจนขึ้น เหมาะกับผู้มีปัญหาเหนียงไม่มาก ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและยาวนาน
8. ทำ Hifu อันตรายหรือไม่ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
ทำ HIFU เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย. โดยทั่วไปแล้วไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง คลื่นอัลตราซาวด์ที่ใช้เป็นเทคโนโลยีมีมานาน ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก และไม่เป็นอันตรายต่อสายตา แต่อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้บ้าง เช่น รอยแดง บวมช้ำ อาการเหล่านี้มักหายไปเอง เพื่อความปลอดภัยควรเลือกทำกับคลินิกได้มาตรฐาน เพื่อป้องกัน hifu ปลอม แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และเครื่องมือทันสมัย
โดย Hifu มีข้อดี ข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของการทำ Hifu มีดังนี้ ช่วยยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า กระชับรูขุมขน ผลลัพธ์ยาวนาน ปลอดภัย พักฟื้นน้อยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และเห็นผลหลังทำ Hifu ทันที แต่ข้อเสียของการ ทำ Hifu ก็มีเช่นกัน คือ ราคาค่อนข้างสูง รู้สึกเจ็บระหว่างทำ อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวมช้ำ ผลลัพธ์อาจไม่ถาวร จำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้ง
ก่อนตัดสินใจทำ Hifu ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพผิวหน้าและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
สรุปเกี่ยวกับ Hifu
Hifu เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลชัดเจน ไม่ผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ต้องการยกกระชับใบหน้า เหนียง คอ ต้นแขน ต้นขา ปรับรูปหน้าให้เรียว V-Shape อย่างไรก็ตามก่อนทำ Hifu ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประเมินสภาพผิวหน้าและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย ลดผลข้างเคียง เหมาะกับผู้ต้องการผลลัพธ์รวดเร็วและยาวนาน